บทสวดปลงสังขาร
มนุษย์เราเอ๋ย

    มนุษย์เราเอ๋ย  เกิดมาทำไม     ตายไปเป็นผี    ลูกเมียผัวรัก
    นิพานมีสุข    อยู่ไยมิไป     เขาชักหน้าหนี    เขาเหม็นซากผี
    ตัณหาหน่วงหนัก    หน่วงชักหน่วงไว้    เปื่อยเน่าพุพอง    หมู่ญาติพี่น้อง
    ฉันไปมิได้    ตัณหาผูกพัน    เขาหามเอาไป    เขาวางลงไว้
    ห่วงนั้นพันผูก    ห่วงลูกห่วงหลาน    เขานั่งร้องให้    แล้วกลับคืนมา
    ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร    จงสละเสียเถิด     อยู่แต่ผู้เดียว    ป่าไม้ชายเขียว
    จะได้ไปนิพพาน    ข้ามพ้นภพสาม    เหลียวไม่เห็นใคร    เห็นแต่ฝูงแร้ง
    ยามหน่มสาวน้อย    หน้าตาแช่มช้อย     เห็นแต่ฝูงกา    เห็นแต่ฝูงหมา
    งามแล้วทุกประการ    แก่เฒ่าหนังยาน     ยื้อแย่งกันกิน    ดูน่าสมเพช
    แต่ล้วนเครื่องเหม็น    เอ็นใหญ่เก้าร้อย     กระดูกกูเอ๋ย    เรี่ยรายแผ่นดิน
    เอ็นน้อยเก้าพัน    มันมาทำเข็ญใจ    แร้งกาหมากิน    เอาเป็นอาหาร
    ให้ร้อนให้เย็น    เมื่อยขบทั้งตัว     เที่ยงคืนสงัด    ตื่นขึ้นมินาน
    ขนคิ้วก็ขาว    นัยน์ตาก็มัว     ไม่เห็นลูกหลาน    พี่น้องเผ่าพันธุ์
    เส้นผมบนหัว    ดำแล้วกลับหงอก    เห็นแต่นกเค้า    จับเจ่าเรียงกัน
    หน้าตาเว้าวอก    ดูน่าบัดสี     เห็นแต่นกแสก    ร้องแรกแหกขวัญ
    จะนั่งก็โอย จะลุกก็โอย    เห็นแต่ฝูงฝี ร้องให้หากัน
    เหมือนดอกไม้โรย    ไม่มีเกสร     มนุษย์เราเอ๋ย    อย่าหลงนักเลย
    จะเข้าที่นอน    พึงสอนภาวนา     ไม่มีแก่นสาร    อุตส่าทำบุญ
    พระอนิจัง    พระอนัตตา     ค้ำจุนเอาไว้    จะได้ไปสวรรค์
    เราท่านเกิดมา    รังแต่จะตาย     จะได้ทันพระพุทธเจ้า    จะได้เข้านิพพาน
    ผู้ดีเข็ญใจ    ก็ตายเหมือนกัน     อะหัง วันทามิ     สัพพะโส อะหัง วันทามิ
    เงินทองทั้งนั้น    มิติดตัวไป    นิพพานะปัจจะโย  โหตุ

 

บทสวดปลงสังขาร
เกษาผมหงอก

       เกษาหงอก    บอกว่าตัวเฒ่า     ฟันฟางผมเฝ้า
    แก่แล้วทุกประการ     ตามืดหูหนัก    ร้ายนักสาทาน
    บ่มิเป็นแก่นสาร    ใช่ตัวตนของเรา    แผ่พื้นเปื่อยเน่า
    เครื่องพระดับกายเรา    โสโครกทั้งตัว    แข้งขามือสั่น
    เส้นเอ็นพันพัว    เห็นน่าเกลียดกลัว     อยู่ในตัวของเรา
    ให้ทึนให้เมื่อย    ให้เจ็บให้เหนื่อย     ไปทุกขุมขน
    แก่แล้วโรคา    เข้ามาหาตน    ให้ความทุกข์ทน
    โสกาอาวรณ์     จะนั่งก็โอย     จะลุกก็โอย
    เหมือนดอกไม้โรย     ไม่มีเกษร    แก่แล้วโรคา
    เข้ามาวิงวร     ได้ความทุกข์ร้อน    ทั่วกายอินมรีย์
    ครั้นสิ้นลมปาก    กลับกลายหายจาก    เรียกกันว่าผี
    ลูกรักผัว ( เมีย) รัก     เขาชักหน้าหนี    เขาว่าซากผี
    เปื่อยเน่าพุพอง  เขาเสียไม่ได้    เขาไปเยี่ยมมอง
    เขาบ่ได้ต้อง     เกลียดกลัวนักหนา     เขาผูกคอรัด
    มือเท้าเขามัด     รัดตรึงตรา    เขาหามเอาไป
    ทิ้งไว้ป่าช้า     เขากลับคืนมา    สู่เหย้าเรือนพลัน
    ตนอยู่เอกา     อยู่กับหมูหมา    ยื้อคร่าพัลวัน
    ทรัพย์สินของตน    ขนมาปันกัน    ข้าวของทั้งนั้น
    ไม่ใช่ของเรา     เมื่อตนยังอยู่    เรียกว่าของกู
    เดี๋ยวนี้เป็นของเขา     แต่เงินใส่ปาก     เขายังควักล้วงเอา
    ไปแต่ตัวเปล่า    เน่าสารพางค์กาย     อยู่ในป่ารก
    ได้ยินเสียกนก     กึกก้องดงยาง     ได้ยินหมาใน
    ร้องไห้ครวญคราง     ใจจิตอ้างว้าง    วิเวกวังเวง
    มีหมู่นกแขวก     บินร้องแลก    แถกขวัญของตน
    เหลียวไม่เห็นใคร     อกใจวังเวง    ให้อยู่ครื้นเครง
    รำพึงถึงตัว    ตายไปเป็นผี    เขาไม่ใยดี
    ทิ้งไว้น่ากลัว     ยิ่งคิดยิ่งพรั่น     กายสั่นระรัว
    รำพึงถึงตัว     อยู่ในป่าช้า    ผัว ( เมีย) มิ่งสินทรัพย์
    ยิ่งแลยิ่งลับ     ไม่เห็นตามมา    เห็นแต่ศีลทาน
    เมตตาภาวนา    ตามเลี้ยงรักษา    อุ่นเนื้ออุ่นใจ
    ศีลทานมาช่วย     ได้เป็นเพื่อนม้วย     เมื่อตนตายไป
    ตบแต่งสมบัติ     นพรัตน์โพยภัย     เลิศล้ำอำไพ
    อัตตะกิเลสมากมี     ศีลพาไปเกิด     ได้วิมานเลิศ
    ประเสริฐโฉมศรี     นางฟ้าแห่ล้อม     ห้อมล้อมมากมี
    ขับกล่อมดีดสี     ฟังเสียงบรรเลง    บรรเลงสมบัติ
    แก้วเก้าเนาวรัตน์     นับน้อยไปหรือ     คุณพระทศพล
    ที่ตนนับถือ     พระธรรมนั้นหรือ    สั่งสอนทุกวัน
    พระสงฆ์องค์อารีย์รัก    มาเป็นปิ่นปัก    พระกรรมฐาน
    เอออวยสมบัติ    นพรัตน์โอราฬ     ดีกว่าลูกหลาน
    ประเสริฐเพลิดเพลา     ลูกผัว ( เมีย) ที่รัก    บ่มิเป็นตำหนัก
    รักเขาเสียเปล่า     เขามิตามช่วย    เพื่อนม้วยด้วยเรา
    ไปหลงรักเขา     เห็นเป็นการ    รักตนดีกว่า
    จำศีลภาวนา     บำเพ็ญศีลทาน     จะได้ช่วยตน
    ให้พ้นสงสาร     ลุถึงสถาน    ได้วิมานทอง
    ผู้ใดใจพลาน    หลงรักลูกหลาน     จะต้องจำจอง
    เป็นห่วงตัณหา     เข้ามารับรอง     ตายไปจะต้อง
    ตกจตุรบาย ฯ

    อันความตาย    ชายนารี     หนีไม่พ้น
    จะมีจน    ก็ต้องวาย    ตายเป็นผี
    ถึงแสนรัก     ก็ต้องร้าง    ห่างทันที
    ไม่วันนี้     ก็วันหน้า    จริงหนาเรา

    อันยศลาภ    หายไป    ไม่ได้แน่
    เว้นเสียแต่     ต้นทุน     บุญกุศล
    ทิ้งสมบัติ    ทั้งหลาย    ให้ปวงชน
    แม้ร้างตน     เขาก็เอา     ไปเผาไฟ

    อย่าแบ่งชั้นวรรณะเลยมนุษย์     ต่างจุดสุดท้ายกลายเป็นผี
    หลุมฝังศพกลบสิ้นซากอินทรีย์    ไพร่ผู้ดีมีหรือจนไม่พ้นตาย