พระเจ้ามหานามศากยะ
เอตทัคคะในฝ่ายผู้ถวายทานมีรสอันประณีต
พระเจ้ามหานามะ เป็นราชโอรสของพระเจ้าอมิโตทนะ ซึ่งเป็นพระกนิษฐาของพระเจ้าสุทโธทนะพุทธบิดา มีพระอนุชาหนึ่งพระองค์ คือ เจ้าชายอนุรุทธะและมีพระกนิษฐภคินีหนึ่งพระองค์ คือ พระนางโรหิณี
ได้ครองกรุงกบิลพัสดุ์
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะบรมโพธิสัตว์ได้ตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณแล้วเสด็จมาโปรดประทานสงเคราะห์พระประยูรญาติ ให้ดำรงปยู่ในสุขสมบัติทั้งที่เป็นของมนุษย์ ทั้งที่เป็นของทิพย์และสุขเกษมศานต์อันเป็นบรมสุขคือพระนิพพานตามวาสนาบารมีของแต่ละพระองค์ เจ้าชายมหานามะก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน ด้วยการเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ในครั้งแรกเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีศากยกุมารอีกเป็นจำนวนมากออกบรรพชาติดตามแวดล้อมพระบรมศาสดา แม้แต่พระอนุชาของพระเจ้ามหานามะ คือเจ้าชายอนุทธะก็เสด็จออกบวชด้วยเช่นกัน
ถวายทานมีรสประณีต
ต่อมาสมัยหนึ่ง พระบรมศาสดาเสด็จจำพรรษา ณ เมืองเวรัญชา พร้อมด้วยหมู่ภิกษุสงฆ์ ตามคำอาราธนาของเวรัญชพราหมณ์ ภิกษุสงฆ์ได้รับความลำบากด้วยการเที่ยวภิกขาจาร เพราะขาดทายกทายิกาที่จะถวายอาหารบิณฑบาตตลอดทั้งพรรษา
ครั้นออกพรรษาแล้วพระพุทธองค์ทรงพาภิกษุสงฆ์เสด็จไปยังกรุงกบิลพัสดุ์ เสด็จเข้าไปประทับ ณ นิโครธาราม พระเจ้ามหานามะทรงทราบจึงเสด็จไปเฝ้ากราบถวายบังคมแล้วประทับนั่ง ณ ที่อันสมควร ทราบว่าพระพุทธองค์และภิกษุสงฆ์ได้รับความลำบากด้วยภิกขาจารในพรรษาที่ผ่านมา จึงกราบทูลขอพระวโรกาสถวายภัตตาหารอันมีรสประณีต แด่พระพุทธองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เป็นระยะเวลา ๔ เดือน
ครั้นทราบว่า พระพุทธองค์ทรงรับโดยดุษณีภาพแล้ว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นก็ได้บำรุงภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยโภชนาหารอันประณีตและของมีรสอร่อย ๔ ชนิด ทุก ๆ วัน ครั้นครบกำหนด ๔ เดือนแล้ว ได้กราบทูลขอรับปฏิญญา ต่อไปอีก ๔ เดือน รวมเป็น ๘ เดือน และก็ขอรับปฏิญญาต่ออีก ๔ เดือน รวมทั้งสิ้นเป็น ๑๒ เดือน
เมื่อครบกำหนดวาระหนึ่งปีแล้ว พระพุทธองค์ไม่ทรงรับอาราธนาเกินไปกว่านั้น ส่วนพระเจ้ามหานามะก็ทรงปลาบปลื้มปีติยินดีกับสักการทานที่พระองค์บำเพ็ญถวายตลอดหนึ่งปีนั้น เกียรติคุณของพระเจ้ามหานามะก็ฟุ้งขจรไปทั่วทั้งชมพูทวีป
ต่อมา พระพุทธองค์ประทับ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ได้ทรงสถสปนาพระเจ้ามหานามศากยะไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าอุบาสกทั้งหลายในฝ่าย ผู้ถวายทานมีรสอันประณีต.
|
|
|