10. อุปสมานุสสติกรรมฐาน

       อุปสมานุสสติ แปลว่า ระลึกคุณพระนิพพานเป็นอารมณ์ ตามศัพท์ท่านน่าจะแปลว่าระลึกถึงคูรของความเข้าไปสงบระงับจิตจากกิเลสและตัณหา ก็คือการเข้าถึงพระนิพพานนั้นเอง ท่านแปลเอาความหมายว่า ระลึกถึงคุณพระนิพพานนั้น เป็นการแปลโดยอรรถ คำว่าสงบระงับไว้ด้วย ก็เพื่อให้เต็มความประสงค์ของนักคิดเท่านั้น

ระลึกตามแบบ

       ท่านพระพุทธโฆษาจารย์ ผู้รจนาคัมภีร์วิสุทธิมรรค ท่านเป็นพระอรหันต์ ขั้นปฎิสัมภิทาญาณ ท่านอธิบายถึงการ ระลึกถึงคุณพระนิพพาน โดยท่านยกบาลี 8 ข้อไว้เป็นแนวเครื่องระลึก

บาลีปรารภพระนิพพาน 8

  1. มทนิมฺมทโน แปลว่า พระนิพพานย่ำยีเสียซึ่งความเมา มีความเมาในความเป็นหนุ่ม และเมาในชีวิต โดยคิดว่าตนจะไม่ตายเป็นต้น ให้สิ้นไปจากอารมณ์ คือคิดเป็นปกติเสมอว่า ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน โลกนี้ทั้งสิ้น มีความฉิบหายเป็นที่สุด
  2. ปิปาสวินโย แปลว่า พระนิพพาน บรรเทาซึ่งความกระหาย คือความใคร่ กำหนัดยินดีในกามคุณ 5 ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และการถูกต้องสัมผัส
  3. อาลยสมคฺฆาโต แปลว่า พระนิพพาน ตัดเสียซึ่งอาลัย ในกามคุณ 5 หมายความว่า ท่านที่เข้าถึงพระนิพพาน คือมีกิเลสสิ้นแล้ว ย่อมไม่ผูกพันในกามคุณ 5 เห็นกามคุณ 5 เสมือนเห็นซากศพ
  4. วัฎฎปัจเฉโท แปลว่า พระนิพพาน ตัดเสียซึ่งวนสาม คือ กิเลสวัฏ ได้แก่ ตัดกิเลสได้สิ้นเชิง ไม่มีความมัวเมาในกิเลสเหลืออยู่แม้แต่น้อย กรรมวัฏ ตัดกรรม อันเป็นบาปอกุศล วิบากวัฏ คือตัดผลกรรมที่เป็นอกุศลได้สิ้นเชิง
  5. ตัณหักขโย, วิราโค, นิโรโธ แปลว่า นิพพานธรรมนั้น ถึงความสิ้นไปแห่งตัณหา ตัณหา ไม่กำเริบขึ้นอีกได้แม้แต่น้อย
  6. นิพพานัง แปลว่า ดับสนิทแห่งกิเลส ตัณหา อุปาทาน กรรมอำนาจทั้ง 4 นี้ ไม่มีโอกาส จะให้ผลแก่ท่าน ที่มีจิตเข้าถึงพระนิพพานแล้วได้อีก

       ตามข้อปรากฎว่าทีเพียง 6 ข้อ ความจริงข้อที่ 5 ท่านรวมไว้ 3 อย่าง คือ ตัณหักขโย 1 วิราโค 1 นิโรโธ 1 ข้อนี้รวมกันไว้เสีย 3 ข้อแล้ว ทั้งหมดจึงเป็น 8 ข้อ พอดี

       ท่านสอนให้ตั้งจิตกำหนดความดีของพระนิพพานตามในบาลีทั้ง 8 แม้ข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ ตามความพอใจ แต่ท่านก็แนะไว้ในที่เดียวกันว่า บริกรรมภาวนาว่า “นิพพานัง” นั่นแหละดีอย่างยิ่ง ภาวนาไปจนกว่าจิตจะเข้าสู่อุปจารฌาน โดยที่จิตระงับนิวรณ์ 5 ได้สงบแล้วเข้าอุปจารฌานเป็นที่สุด กรรมฐานนี้ ที่ท่านกล่าวว่าได้ถึงที่สุดเพียงอุปจารฌาน ก็เพราะเป็นกรรมฐานละเอียดสุขุม และใช้อารมณ์ใคร่ครวญ เป็นปกติ กรรมฐานนี้จึงมีกำลังไม่ถึงฌาน

อานิสงส์

       อานิสงส์ที่ใช้อารมณ์ใคร่ครวญถึงพระนิพพานนี้มีผลมาก เป็นปัจจัยให้ละอารมณ์ที่คลุกเคล้าด้วยกิเลสและตัณหา เห็นโทษในวัฏฏะ เป็นปัจจัยให้แสวงหาทางปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ อันเป็นปฏิปทาไปสู่พระนิพาน เป็นกรรมฐานที่นักปฏิบัติได้ผลกำไร เพราะเป็นปัจจัยให้เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าได้อย่างสบาย ขอท่านนักปฏิบัติจงสนใจกรรมฐานกองนี้ให้มาก ๆ และแสวงหาแนวปฏิบัติ ที่เข้าตรงต่อ พระนิพพานมาปฏิบัติ ท่านมีโอกาสจะเข้าสู่พระนิพพานได้อย่างไม่ยากนัก เพราะระลึกนึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์นี้ เป็นองค์หนึ่งในองค์สามของพระโสดาบันแล้ว เหลืออีกสองต้องควรแสวงหาให้ครบถ้วน

พระนิพพานไม่สูญ

      ท่านนักปฏิบัติได้กำหนดกรรมฐาน ในอุปสมานุสสตินี้แล้ว ท่านอาจจะต้องประสบกับปัญหายุ่งสมองในเรื่องพระนิพพานอีกตอนหนึ่ง เพราะบรรดานักคิดนักแต่งทั้งหลายได้พากันโฆษณามาหลายร้อยปีแล้วว่า พระนิพพานเป็นสภาพสูญ แต่พอมาอ่านหนังสือ ของพระอรหันต์ท่านเขียน คือหนังสือวิสุทธิมรรค ท่านกลับยืนยันว่าพระนิพพานไม่สูญ ดังท่านจะเห็นตามบาลีทั้ง 8 ที่ท่านยกมาเป็นองค์ภาวนานั้น คือ มทนิมฺมทโน พระนิพพานตัดความเมาชีวิต ปีปาสวินโย นิพพานบรรเทาความกระหายในกามคุณ 5 อาลยสมุคฺฆาโต พระนิพพานถอนอาลัยในกามคุณ วัฏฏปัจจเฉโท พระนิพพานตัดวนสามให้ขาด ตัญหักขโย พระนิพพานมีตัณหาสิ้นแล้ว หรือสิ้นตัณหาแล้วเข้าสู่นิพพาน วิราโค มีความเบื่อหนายในตัณหา นิโรโธ ดับตัณหา ได้สนิทแล้ว โดยตัณหาไม่กำเริบอีก นิพพานัง มีความดับสนิทแล้วจาก กิเลส ตัณหา อุปาทาน กรรม อันเป็นเหตุให้เกิดอีกในวัฎสงสาร

       ความหมายตามบาลีที่ท่านว่าไว้นี้ ไม่ได้บอก ท่านที่ถึงพระนิพพานแล้วสูญ เพราะความเห็นว่าตายแล้วสูญ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็นความเห็นผิด เมื่อบาลีท่านยันว่านิพพานไม่สูญแล้ว ท่านบรรดานักแต่งทั้งหลายเอามาจากไหนว่านิพพานสูญ อันนี้น่าจะเกิดความเข้าใจผิดอะไรกันสักอย่าง เพราะบาลีบทหนึ่งว่า “นิพพานัง ปรมัง สูญญัง” แปลว่า นิพพานเป็นธรรมว่างอย่างยิ่ง ท่านอาจจะไปคว้าเอา โดยเข้าใจว่า สูญโญเข้าให้

ย้อนหน้า 1