พระอนาคตวงศ์
กัณฑ์ที่ ๒

 


พระธรรมสามี
ตอนจบ

       ครั้งนั้นบังจักษุแห่งนายเพ็ชฌฆาตไว้ ให้เป็นมหาละลวยละลายไป นายเพ็ชฌฆาตเห็นรูปสมเด็จพระพุทธเจ้า เปรียบเหมือนกับเหล่าราชบุรุษทั้งหลายที่มานั่งอยู่นั้น กระทำแต่จักษุโพธิอำมาตย์แต่ผู้เดียว ให้เห็นเป็นรูปพระพุทธองค์ จึงมีพระพุทธฏีกาตรัสว่า

       “ ดูก่อนโพธิอำมาตย์ผู้เจริญ ท่านจงสละชีวิตของท่านเสียเถิดอย่ากระทำอาลัยในชีวิตอยู่เลย อันว่าปัจจัยทานของท่านมีประการใด ท่านจงให้ทานยังนำจิตให้เลื่อมใสในพระตถาคตเถิด ” อันว่าเครื่องปัจจัยทานของโพธิอำมาตย์นั้นราชบุรุษทั้งหลายเอามาวางไว้ ตรงหน้าแห่งโพธิอำมาตย์ด้วยเดชะพระพุทธานุภาพ โพธิอำมาตย์ได้สดับฟังพระพุทธฏีกาตรัสดังนั้น ก็บังเกิดมีจิตโสมนัสหาที่จะอุปมามิได้

       ก็ถือเอาเครื่องปัจจัยทานของอาตมาส่วนหนึ่ง ของภรรยาส่วนหนึ่ง ถวายแก่สมเด็จพระพุทธกัปปสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเบญจางประดิษฐ์ แล้วกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นที่พึ่ง แก่สัตว์โลกทั้งหลาย อันว่าชีวิตนี้ข้าพระบาทเสียสละแล้ว ด้วยเดชะผลทานของข้าพระพุทธเจ้า ในกาลบัดนี้ขอให้ได้บังเกิดเป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าเห็นดังพระองค์ในอนาคตกาลโน้นเถิด

       โพธิอำมาตย์กระทำปณิธานความปรารถนาดังนั้น สมเด็จพระภควันตบพิตรผู้ประเสริฐ ทรงพระอนุเคราะห์ยื่นพระหัตถ์ไปปรามาสเหนือศีรษะ แห่งโพธิอำมาตย์ แล้วมีพระพุทธฏีกาว่า ตัวท่านยังความเป็นสุขเป็นอันมาก ให้บังเกิดแก่ตน จะได้พ้นวัฏฏทุกข์ในสงสาร ท่านปรารถนาประการใด ความปรารถนานั้น จงพลันสำเร็จแก่ท่านเถิด ดูก่อนโพธิอำมาตย์ผู้จำเริญเอ๋ย ไปในอนาคตเบื้องหน้าโน้นท่านจะได้บังเกิดเป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง สมดังความปรารถนาของท่าน

       ทรงพยากรณ์ทำนายโพธอำมาตย์แล้วก็เสด็จกลับยังเชตวันมหาวิหาร กระทำภัตตกิจซึ่งปัจจัยทานบิณฑบาต ที่โพธอำมาตย์ถวายแล้วสำเร็จแล้ว ขณะนั้นนายเพ็ชฌฆาตก็ตัดศีรษะโพธิอำมาตย์ผู้เป็นเจ้าของท่าน ขาดตกลงกระเด็นไปจากกาย โพธิอำมาตย์กระทำกาลกิริยาตาย มหาปฐพีอันใหญ่ก็ไหวหวาด เป็นมหัศจรรย์โกลาหล

       ครั้งนั้นเศวตฉัตรแห่งสมเด็จพระเจ้ากิงกิสสราชก็หักทบลง พระองค์เห็นเศวตฉัตรหักก็ให้ประหลาดพระทัยนัก ให้สดุ้งพระทัยไหวหวั่น สั่งให้ปิดประตูพระทวารไว้ให้มั่น ฯ ลำดับนั้น อันว่าทิพย์วิมานทอง อันประกอบไปด้วยนางเทพอัปสรสาวสวรรค์ประมาณพันนาง ก็บังเกิดผุดขึ้นมาในสุสานประเทศที่กระทำกาลกิริยาตายแห่งโพธิอำมาตย์นั้น กับขุมทองทั้งหลาย ๑๖ ขุม และไม้กัลปพฤกษ์ด้วยต้นหนึ่งประกอบไปด้วยสรรพสิ่งสาระพันต่าง ๆ บังเกิดขึ้นในที่นั้น

       อันว่าบุตรภรรยาโพธิอำมาตย์ ก็ได้อาศัยอยู่ในวิมานทองได้บริโภคซึ่งขุมทอง และไม้กัลปพฤกษ์ ประพฤติเลี้ยงชีวิตสืบมา ถ้วนถึง ๕๐๐ ปีเป็นกำหนด ฝ่ายโพธิอำมาตย์ก็ได้ขึ้นไปบังเกิดในดุสิตาสวรรค์เสวยทิพย์สมบัติด้วยเดชะผลทานนั้น ฯ

       ดูก่อนสำแดงสารีบุตร เมื่อครั้งศาสนาของพระยามาราธิราชนี้ มหาชนทั้งหลายได้บริโภคซึ่งเข้าสารสาลีเป็นนิจกาล ด้วยเดชะผลทานเข้าสุกห่อหนึ่งถวายแก่พระพุทธกัสสป ในกาลเมื่อเป็นโพธิอำมาตย์ เมื่อพระยามาราธิราชได้ตรัสแล้ว บังเกิดมีเศวตฉัตรแก้วสูงได้ ๓ โยชน์ ด้วยเดชะผลทานถวายผ้าผืนหนึ่ง และพระองค์มีชนมายุประมาณถึงแสนปีนั้นด้วยเดชะผลทานที่สละซึ่งชีวิต ฯ

       ดูก่อนสำแดงสารีบุตรพระยามาราธิราชองค์นี้ ไปในอนาคตกาล จักได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระธรรมสามี สำแดงมาด้วยเรื่องราวพระยามาราธิราชบรมโพธิสัตว์เคารพ ๔ ก็ยุตติแต่เพียงนี้ ฯ

( เอวํ ก็มี ด้วยประฉะนี้ )