1. ปฐวีกสิณ    เป็นกสิณเพ่งดิน
  2. อาโปกสิณ  เป็นกสิณเพ่งน้ำ
  3. เตโชกสิณ   เป็นกสิณเพ่งไฟ
  4. วาโยกสิณ   เป็นกสิณเพ่งลม
  5. นีลกสิณ     เป็นกสิณเพ่งสีเขียว
  6. ปีตกสิณ     เป็นกสิณเพ่งสีเหลือง
  7. โลหิตกสิณ  เป็นกสิณเพ่งสีแดง
  8. โอทากสิณ  เป็นกสิณเพ่งสีขาว
  9. อาโลกกสิณ เป็นกสิณเพ่งแสงสว่าง
  10. อากาสกสิณ เป็นกสิณเพ่งอากาศ

อาโปกสิณ

      อาโปกสิณ อาโป แปลว่า น้ำ กสิณ แปลว่า เพ่ง อาโปกสิณ แปลว่า เพ่งน้ำ กสิณน้ำ

      วิธีปฏิบัติคือ ท่านให้เอาน้ำที่สะอาด ถ้าได้น้ำฝนก็ยิ่งดี ใส่น้ำในภาชนะเท่าที่จะหาได้้ ใส่ให้เต็มพอดี อย่าให้พร่อง

      การนั่ง หรือเพ่งมีอากรอย่างเดียวกับปฐวีกสิณ จนกว่าจะเกิดอุคคหนิมิต ซึ่งอุคคหนิมติของอาโปกสิณนี้ จะปรากฎเหมือนน้ำไหวกระเพื่อม ส่วนปฏิภาคนิมิตปรากฎเหมือนพัดใบตาลแก้วมณี คือใสมีประกายระยิบระยับ เมื่อถึงตอนนี้แล้วก็เจริญต่อไปให้ถึงจตุถฌาน บทภาวนาที่ใช้ในอาโปกสิณนี้คือ "อาโปกสิณัง"

เตโชกสิณ

      เตโช แปลว่า ไฟ กสิณเพ่งไฟเป็นอารมณ์ ท่านให้จุดไฟให้ไฟลุกโชนแล้วเอาเสื่อหรือหนังมาเจาะ ทำเป็นช่องกว้าง 1 คืบ 4 นิ้ว แล้ววางเสื่อหรือหนังนั้นไว้ข้าง ให้เพ่งพิจารณาไปตามช่องนั้น

      การนั่งสูงหรือระยะ เหมือนกับปฐวีกสิณ การเพ่ง อย่าเพ่งเปลวไฟที่ไหวไปมา ให้เลือกเพ่งแต่ไฟที่มีแสงหนาทึบที่ปรากฎตามช่องนั้นเป็นอารมณ์ ภาวนาว่า "เตโชกสิณัง" หลาย ๆ ครั้ง จนกว่านิมิตจะเป็นอุคคหนิมิต ซึ่งปรากฎเป็นดวงเพลิงตามปกติ สำหรับปฏิภาคนิมิตนั้นมีรูปคล้ายผ้าแดงผืนหนา หรือคล้ายกับพัดใบตาลที่ทำด้วยทองหรือเสาทองคำที่ตั้งอยู่ในอากาศ เมื่อได้ถึงขั้นนี้แล้วขอให้พยายามจนถึงจตุตถฌานเถิด

วาโยกสิณ

      วาโยกสิณ แปลว่า เพ่งลม การถือเอาลมเป็นนิมิต จะถือเอาด้วยการเห็นหรือจะถือเอาด้วยการกระทบก็ได้

      กำหนดด้วยการเห็นนั้น ท่านให้ถือเอาการที่ลมพัดถูกต้องปลายหญ้าหรือปลายไม้เพ่งเป็นอารมณ์เพ่งพิจารณา

      การถือด้วยการถูกต้องกระทบ ให้ถือเอาการที่ลมพัดมากระทบตัวเป็นอารมณ์ สมัยนี้จะใช้พัดลมเป่าแทนก็ได้ เมื่อเพ่งพิจารณาอยู่ให้ภาวนาว่า "วาโยกสิณัง"

      อุคคหนิมิตของวาโยกสิณ ปรากฎว่ามีการไหว ๆ คล้ายกระไอแห่งการหุงต้ม ที่มีไอปรากฏมากระทบจักษุ คือมีปรากฏการณ์คล้ายตามมองเห็นไอน้ำที่ต้มเดือดแล้ว

      ปฏิภาคนิมิต มีอาการปรากฏภาพเหมือนไอน้ำที่ลอยขึ้น แต่ไม่เคลื่อนไหว หรือคล้ายกับก้อนเมฆบางที่ลอยอยู่คงที่นั่นเอง อาการอย่างอื่นก็เหมือนกับที่กล่าวไว้ในปฐวีกสิณ

นีลกสิณ

      นีลกสิณ แปลว่า เพ่งสีเขียว ท่านให้ทำสะถึงขึงด้วยผ้าหรือหนัง กระดาษก็ได้โดยเอาสีเขียวทา หรือจะเพ่งพิจารณาสีเขียวจากใบไม้ก็ได้ ทุกอย่างเช่นเดียวกับที่กล่าวไว้ในปฐวีกสิณ

      เมื่อเพ่งภาวนาว่า "นีลกสิณัง" ไปเรื่อย ๆ อุคคหนิมิตนั้นปรากฎเป็นรูปที่เพ่งนั่นเอง

ปีตกสิณ

      ปีตกสิณ แปลว่า เพ่งสีเหลือง การปฏิบัติทุกอย่างเหมือนนีลกสิณ แต่เป็นสีเหลือง บทภาวนาว่า "ปีตกสิณัง" ไปเรื่อย ๆ นอกนั้นเหมือนที่กล่าวแล้วข้างต้น

โลหิตกสิณ

      โลหิตกสิณ แปลว่า เพ่งสีแดง จะเพ่งดอกไม้สีแดง หรือเอาสีแดงมาทาทับกับสะดึงก็ได้ บทภาวนาว่า "โลหิตกสิณัง" นอกนั้นทุกอย่างเหมือนที่กล่าวแล้ว

โอทากสิิณ

      โอทากสิณ แปลว่า เพ่งสีขาว โดยจะหาจากดอกไม้หรืออย่างอื่นก็ได้แต่สะดวก หรือจะทำแบบสะดึงโดยใช้สีขาว บทภาวนาคือ "โอทากสิณัง" นอกนั้นก็เหมือนที่กล่าวแล้วเบื้องต้น

อาโลกกสิณ

      อาโลกกสิณ แปลว่า เพ่งแสงสว่าง ท่านให้หาแสงสว่างที่ลอดมาตามช่องฝาหรือช่องหลังคา หรือเจาเสื่อลำแพน หรือแผ่นหนังช่องเท่า 1 คืบ 4 นิ้ว บทภาวนากล่าวว่า "อาโลกกสิณัง" ไปเรื่อย ๆ จนอุคคหนิมิตปรากฏ ซึ่งอุคคหนิมิตของอาโลกกสิณมีรูปเป็นแสงสว่างที่เหมือนรูปเดิม ส่วนปฏิภาคนิมิตนั้น ปรากฏเป็นแสงสว่างหนาทึบ เหมือนกับเอาแสงสว่างมากองรวมกันไว้ จากนั้นก็ทำต่อไปจนเข้าถึงจตุตถฌาน

อากาสกสิณ

      อากาสกสิณ แปลว่า เพ่งอากาศ คำภาวนาว่า "อากาสกสิณัง" ทำเหมือนอาโลกสิณ คือ เจาะเสื่อหรือหนัง หรือจะมองอากาศ คือความว่างเปล่าที่ลอดมาตามช่องฝา หรือช่องเสื่อ หนัง โดยกำหนดภาวนาไปเรื่อย ๆ จนเกิดอุคคหนิมิต เป็นช่องตามรูปที่กำหนด ส่วนปฏิภาคนิมิตนั้น ปรากฏคล้ายอุคคหนิมิต แต่พิเศษตรงบังคับให้ขยายให้ใหญ่เล็ก สูงต่ำได้ตามความประสงค์ นอกนั้นเหมือนกสิณอื่น ๆ ที่กล่าวไว้

กลับหน้า 1     ต่อหน้า 3