ผิวกายของพระพุทธเจ้าผ่องใสยิ่งใน ๒ เวลา

              เมื่อปุกกุสะมัลลบุตรหลีกไปแล้ว พระอานนท์เถระได้นำผ้าสิงคิวรรณทั้ง ๒ ผืนเข้าถวายพระผู้มีพระภาค ทรงนุ่งผืนหนึ่ง ห่มผืนหนึ่ง ผ้าสิงคิวรรณมีสีดุจถ่านไฟที่ปราศจากเปลวงาม เมื่อพระเถระเจ้านำเข้าถวายปกคลุมพระกาย เป็นพุทธบริโภคทั้งคู่ ในทันใดนั้น ผิวกายของพระผู้มีพระภาค ก็งามบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งนัก

              พระอานนท์ได้กราบทูลสรรเสริญ ความอัศจรรย์ของพระฉวีวรรณงามผ่องใส สมกับคู่ผ้าสิงคิวรรณที่ปกคลุมพระกายยิ่งนัก

              "จริงดังอานนท์สรรเสริญ" พระผู้มีพระภาคทรงรับสั่ง "กายของตถาคตย่อมงามบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งใน ๒ เวลา คือ เวลาราตรีที่จะตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ๑ และเวลาราตรีที่จะปรินิพพาน ๑ อานนท์ ๒ เวลานี้แล กายของตถาคตงามบริสุทธิ์ยิ่งนัก"

              "อานนท์ ในยามที่สุดแห่งราตรีวันนี้แหละ ตถาคตจะปรินิพพาน ณ ระหว่างไม้สาละทั้งคู่ ณ สลาวัน แห่งมัลลกษัตริย์ ใกล้เมืองกุสินารา อานนท์ เรามาไปพร้อมกันยังแม่น้ำกกุธานที" พระอานนท์รับพระบัญชามาแจ้งให้พระสงฆ์ทราบทั่วกัน

              ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าก็เสด็จไปโดยมรรคานั้น จนถึงแม่น้ำกกุธานที เสด็จทรงเสวยและสนานสำราญพระกายตามพระอัธยาศัยแล้ว เสด็จขึ้นมาประทับยังร่มไม้รับสั่งให้พระจุนทะเถระลาดสังฆาฏิถวาย ด้วยขณะนั้น พระอานนท์กำลังบิดผ้าชุบสรงอยู่ แล้วสมเด็จพระบรมครูก็เสด็จบรรทมระงับความลำบากพระกายที่ตรากตรำมาในระยะทาง.

ปุกกุสะถวายผ้าสิงคิวรรณ    ผลแห่งบิณฑบาตทาน