ทรงเปิดโลกลำดับพรรษายุกาล
จำเดิมแต่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสรู้อนุตรภิเศกสัมโพธิญาณ คำนวณพระชนมพรรษาได้ ๓๕ พระวัสสาแล้ว ก็เริ่มบำเพ็ญปรหิตประโยชน์ โปรดเวนัยสัตว์ แต่ปฐมโพธิสัม ในพรรษาแรก เสด็จจำพรรษา ณ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พรรษาหนึ่ง
ในพรรษาที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ เสด็จจำพรรษาที่พระเวฬุวันวิหาร ณ พระนคราชคฤห์ รวม ๓ พรรษา
ในพรรษาที่ ๕ เสด็จจำพรรษาที่กุฏาคารศาลา ป่ามหาวัน ใกล้พระนครไพศาลี
ในพรรษาที่ ๖ เสด็จจำพรรษาบนมกุฏบรรพต
ในพรรษาที่ ๗ เสด็จขึ้นไปจำพรรษาที่บนปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ภายใต้ร่มไม่ปาริชาติในดาวดึงส์เทวโลก แสดงอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา
ในพรรษาที่ ๘ เสด็จจำพรรษาที่เภสกลาวัน ป่าไม้สีเสียด ใกล้กรุงสุงสุมารคีรี ในภัคคราฐ
ในพรรษาที่ ๙ เสด็จจำพรรษาที่ปาลิไลยวันสถาน อาศัยกุญชรชาติ ชื่อว่า ปาลิไลยหัตถี ทำวัตรปฏิบัติ
ในพรรษาที่ ๑๐ เสด็จจำพรรษาที่บ้านนาลายพราหมณ์
ในพรรษาที่ ๑๑ เสด็จจำพรรษาที่ภายใต้ร่มไม้ปุจิมันทพฤกษ์ ไม้สะเดา อันเป็นรุกขพิมานของนาเฬรุยักษ์ ใกล้พระนครเวรัญชา
ในพรรษาที่ ๑๒ เสด็จจำพรรษาอยู่ในปาลิยบรรพต
ในพรรษาที่ ๑๓ เสด็จจำพรรษาที่พระเชตวันวิหาร ณ พระนครไพศาลี
ในพรรษที่ ๑๔ เสด็จจำพรรษาที่นิโครธาราม มหาวิหาร ใกล้พระนครกบิลพัศดุ์ อนุเคราะห์ระงับการวิวาทระหว่างพระประยูรญาติทั้งหลาย ทั้งสองพระนคร
ในพรรษาที่ ๑๕ เสด็จจำพรรษาที่อัคคาฬวเจดีย์ ใกล้อาฬวีนคร หลังจากทรงทรมารอาฬวกยักษ์ ให้สิ้นพยศแล้ว
ในพรรษาที่ ๑๖ ที่ ๑๗ และที่ ๑๘ เสด็จกลับไปจำพรราาที่เวฬุวันวิหาร ณ นครราชคฤห์ อีก รวม ๓ พรรษา
ในพรรษาที่ ๑๙ ถึงพรรษาที่ ๔๕ รวม ๒๕ พรรษานี้ ทรงจำพรรษาที่พระเชตวันวิหารและบุพพาราม สลับกัน คือประทับที่พระเชตวันวิหาร ของท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐีสร้างถวาย ๑๙ พรรษา ประทับที่บุพพาราม ของท่านมหาอุบาสิกา วิสาขา สร้างถวาย ๖ พรรษา
ครั้นในพรรษาที่ ๔๕ ซึ่งเป็นพรรษาสุดท้าย พระบรมศาสดา ทรงจำพรราา ณ บ้านเวฬุคาม ใกล้พระนครไพศาลี ภายในพรรษาทรงพระประชวรอาพาธหนักครั้งหนึ่ง ทรงเยียวยาบำบัดพระโรคด้วยโอสถ คือ สมาบัติ ครั้นออกพรรษา ทรงทำปวารณากับด้วยพระสงฆ์สาวกทั้งปวง ได้รับสั่งแก่พระสารีบุตรเถระว่า "ไม่ช้าแล้วตถาคตก็จะปรินิพพาน ดูกรสารีบุตร ตถาคตจะไปพระนครสาวัตถี" พระสารีบุตรเถระรับพระบัญชาออกมารับสั่งพระสาวกให้เตรียมการตามเสด็จ พระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระสงฆ์สาวก เสด็จไปประทับ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
|