ท้าวสักกะอัญเชิญพระทักษิณทาฐธาตุไปเทวโลก

              ขณะที่โทณพราหมณ์กำลังตักตวงพระบรมธาตุถวายกษัตริย์ทั้งหลายอยู่นั้น ท้าวสักกะอมรินทราธิราช ทราบด้วยทิพย์จักษุว่า โทณพราหมณ์ลอบหยิบเอาพระทักษิณทาฐธาตุซ่อนไว้ในมวยผม จึงทรงดำริว่า "กำลังโทณพราหมณ์ ไม่สามารถจะทำที่สักการะบูชาเชิดชูพระบรมธาตุนั้นให้สมเกียรติอันสูงได้ สมควรจะเอาไปประดิษฐานไว้ยังเทวโลก ให้เทวดาและพรหมทั้งหลายสักการะบูชาเถิด" ครั้นดำริแล้วก็แฝงพระกายลงมาหยิบเอาพระทักษิณทาฐธาตุ เชิญลงสู่พระโกษทองน้อย ยกขึ้นทูลพระเศียรเกล้า อัญเชิญไปบรรจุไว้ที่พระจุฬามณีเจดีย์ ณ สุราลัยเทวสถาน

              ฝ่ายโทณพราหมณ์ ครั้นแบ่งปันพระบรมสารีริกธาตุถวายกษัตริย์ทั้งปวงเสร็จแล้ว ก็ยกมือขึ้นค้นหาพระทักษิณทาฐธาตุบนมวยผม ไม่พบก็เสียใจเป็นอันมาก ครั้นจะไต่ถามหาตัวคนเอาไป ว่าผู้ใดมาลอบเอาพระทักษิณทาฐธาตุบนมวยผมไป ก็ไม่กล้าออกปากด้วยละอายแก่ใจ เกรงว่ากษัตริย์ทั้งหลายจะยกโทษ ทำให้เสื่อมเสียเกียรติของตน จึงสงบใจไว้ ไม่แสดงอาการอันใดออกมา แต่แล้วก็ดำริสืบไปว่า ทะนานทองใบนี้ ก็มีส่วนนับเนื่องในพระบรมสารีริกธาตุ เป็นของวิเศษ ควรแก่การสัการะบูชาอยู่ ควรที่จะอาตมาจะนำไปสร้างพระเจดีย์บรรจุไว้เป็นที่สักการะบูชาเถิด

              ครั้นตกลงใจเช่นนั้นแล้ว จึงกล่าวแก่กษัตริย์ทั้งปวงว่า "ข้าแต่บพิตรทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอประทานทะนานทองตวงพระบรมธาตุใบนี้ เพื่อจะอัญเชิญไปสร้างพระสถูปเจดีย์บรรจุไว้เป็นที่สักการะบูชา" กษัตริย์ทั้งหลายก็พร้อมใจกันยินยอมพระราชทานให้แก่โทณพราหมณ์ เพื่อไปสร้างพระตุมพเจดีย์บรรจุตามปรารถนา

              ภายหลังกษัตริย์ในเมืองโมรีนคร ได้ทราบข่าวพระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพาน จึงส่งราชฑูตให้มาทูลขอพระบรมสารีริกธาตุ ณ เมืองกุสินารานคร ทั้งยกพลพยุหเสนาตามมาภายหลัง กษัตริย์กุสินาราจึงแจ้งว่า พระบรมสารีริกธาตุนั้น กษัตริย์ทั้งแปดพระนครได้ประชุมแบ่งปันกันหมดสิ้นแล้ว ยังอยู่แต่พระอังคาร ขอให้อัญเชิญพระอังคารไป ทำสักการะบูชาเถิด กษัตริย์โมรีนคร ก็อัญเชิญพระอังคารไปทำสักการะบูชายังพระนครของตน.

พระมหากัสสปกราบพระยุคลบาท    พระสถูปเจดีย์สถาน