พระจันทรกุมาร ๒

    แม้พระจันทรกุมารจะเข้าทัดทานอย่างไรก็ไร้ผล พระองค์มิได้ทรงเชื่อเลย ทรงมุ่งหวังแต่สมบัติที่ตาพราหมณ์ป้อยอเท่านั้น กัณฑหาลพราหมณ์ไปจัดการให้คนขุดหลุมเพื่อการบูชายัญภายนอกเมือง เมื่อจวนจะสำเร็จ พระเจ้าเอกราชเกิดใจอ่อน ทนการอ้อนวอนของพระโอรสธิดามิได้ จะเลิกการบูชายัญตาพราหมณ์ได้ทราบก็รีบเล่นมา

   “ข้าพระองค์ได้บอกแล้วว่างานนี้ยากมาก เมื่อจัดทำขึ้นแล้วจะเลิกเสียกลางคัน พระองค์จะมิได้สมบัติดังกล่าว และแถมจะถูกครหานินทราว่าเป็นกษัตย์ตรัสแล้วไม่อยู่กับร่องกับรอยเสียด้วย"

   พอได้ยินเท่านั้นพระทัยเดือดปุด ๆ

   “ทำสิวะ ทำไมจะไม่ทำ ใครว่า ตัดหัว”

    อำนาจบาทใหญ่พลุ่งออกทันที อนิจจา ทศพิธราชธรรมสำหรับพระเจ้าเอกราชผู้งมงายหามีไม่ กลับสั่งให้จับตัวมเหสี  ๔ องค์   โอรส ๔ องค์    ธิดา ๔    ช้าง ๔    ม้า ๔    เศรษฐีอีก ๔ ไปคุมไว้รอบูชายัญ พระเจ้าหลวงผู้ชนกของพระเจ้าเอกราชได้ทราบเรื่องก็ห้ามปรามมิให้ทำ แต่พระเจ้าเอกราชเชื่อฟังก็หาไม่ สมบัติทิพย์ใครจะไม่อยากได้ ต้องฆ่าพวกนี้เพื่อสมบัติทิพย์ แม้พระจันทรกุมารจะทูลว่า

   “ขอเดชะพระราชบิดา หากการบูชายัญด้วยของรักเป็นเหตุให้ได้สมบัติแล้วไซร้ ทำไมกัณฑหาลพราหมณ์จึงไม่เอาบุตรธิดาของตนเองบูชายัญเพื่อจะได้สมบัติทิพย์บ้างเล่า นี่ก็เป็นเหตุให้เห็นได้ว่าเป็นความไม่จริง

   ตาพราหมณ์แกโกรธเคืองกระหม่อมฉันที่ทำให้แกกดขี่ข่มแหงประชาชนพลเมือง รีดเอาทรัพย์สินเงินทองเหล่านั้นไม่ได้ จึงอยากจะฆ่าหม่อมฉันเสีย หากจะให้สมใจตาพราหมณ์ ได้โปรดฆ่าข้าพระองค์แต่เพียงผู้เดียวเถิด อย่าให้ใครลำบากยากแค้นด้วยข้าพระองค์เลย” ถึงเช่นนี้พระองค์ก็หาฟังไม่
   “เขาจะทำพิธีแก้กรรมมาแก้ตัวว่าเขาเกลียดแกทำไม แกมันยุ่งไม่เข้าท่า เห็นคนอี่นเข้าทำดีเข้าหน่อยก็พลอยผยองไป แกจะทำให้พิธีข้าเสีย ไม่ได้ ต้องบูชายัญให้หมด”

   แม้ใครจะอ้อนวอนอย่างไร...พอใจอ่อนสั่งปล่อยตาพราหมณ์ก็มาทัดทานไว้ต้องสั่งจับใหม่ โดยอาการเช่นนี้ถึงหลายครั้งหลายครา สุดท้ายตาพราหมณ์เห็นว่ายิ่งรอช้าไปพระจันทรกุมารอาจไม่ตายก็ได้ เพราะพระทัยของพระเจ้าเอการชไม่สู้จะแน่นอนนัก จึงได้เร่งรีบให้ขุดหลุมและจัดบริเวณพิธีให้เสร็จ โดยเร็ว เพื่อจะประหารเสียเร็ว ๆ

    เมื่อบริเวณพิธีและหลุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว พราหมณ์ก็สั่งให้คนนำสัตว์ที่จับไว้นั้นออกนอกประตูพระนครไปพร้อมกับปิดประตูห้ามคนคนในออกคนนอกเข้า เพราะกลัวประชาชนจะติดตามทำลายพิธี เพราะคนอย่างมหาอุปราชและเศรษฐีก็ย่อมมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมากมาย เดี๋ยวเกิดจะมีคนดีขึ้นมาบ้าง

   พอถึงโรงพิธีคนแรกที่ต้องสังเวยคือจันทกุมาร ตาพราหมณ์ก็นำไปนั่งข้างปากหลุม เตรียมถาดที่จะรองเลือดไว้เรียบร้อย ตนเองก็ตระเตรียมดาบไว้ พระจันทกุมารตอนนี้วางใจเป็นอุเบกขาแล้วแต่เวรกรรม แต่พระจันทาเทวีผู้ชายาของมหาอุปราช ซึ่งตามอ้อนวอนพระราชบิดาขอยกให้โทษพระจันทรกุมาร และเอาตัวของพระนางเองบูชายัญแทนก็ไม่สำเร็จ จึงตั้งสัจจาธิษฐานคือตั้งความสัตย์ว่า

   “ขอฝูงเทพเทวาทั้งหลายจงเป็นพยานด้วยความสัตย์ของข้า กัณฑหาลพราหมณ์เป็นคนมิชอบต่อราชแผ่นดิน ไม่มีศีลธรรม แกล้งจะทำลายล้างผู้อื่น ด้วยความสัตย์ ขอให้กัณฑหาลพราหมณ์จงพินาศไป และขอให้พระจันทรกุมารสวามีแห่งข้าจงได้รอดชีวิตด้วยเถิด”

   ด้วยสัจจาธิษฐานของนาง ทำให้อาสนะพระอินทร์แข็งนั่งไม่สบาย คงเป็นอย่างเรื่องของสังข์ทองที่ว่า
“ทิพย์อาสน์เคยอ่อนแต่ก่อนมา กระด้างดังศิลาประหลาดใจ
จะมีเหตุมั่นแม่นในแผ่นดิน อมรินทร์เร่งคิดสงสัย
จึงสอดส่องทิพย์เนตรเหตุภัย ก็แจ้งใจในรจนา”

   แต่เห็นจะต้องแก้เป็นจันทรกุมาร แม้นมิช่วยจะม้วยมอด ด้วยไม่รอดจากประหาร ต้องเหาะลอยระเห็จล่องฟ้ามาช่วยทันที มีมือถือค้อนเหล็กเป็นไฟ พอเหาะมาถึงบริเวณพิธีก็ร้องตวาดก้องว่า

หน้า 1   หน้า 2   หน้า 3