พระจันทรกุมาร ๓

   “ไอ้พระยาอธรรม์ เคยมีเยี่ยงอย่างจากไหนที่สั่งสอนว่า ฆ่าคนจะได้สมบัติทิพย์และจะได้ไปสวรรค์ ทศพิฑราชธรรมสำหรับกษัตริย์ละเลิกแล้วหรืออย่างไร ถ้าขืนทำพิธีบูชายัญให้ได้ เราจะตีเศียรท่านให้ย่อยยับไปเป็นจุณ”
   และไม่เพียงแต่พูด แถมฟาดราชวัติฉัตรธงในบริเวณพิธีพังล้มระเนระนาดไปเสียด้วย

   ในขณะนั้นเองประชาชนก็ฮือกันเข้าไปจับตัวกัณฑหาลพรามหณ์เจ้าพิธีซึ่งกำลังยืนตะลึงอยู่ ลากออกมมาข้างนอก แล้วทีนี้ไม่รู้ว่ามือใคร บาทาใคร ตึ๊บตั๊บ หนึบหนับ พักเดียวเงียบกริบ ไม่มีเสียงร้องเล็ดลอดร่างแหลกเหลวแทบดูไม่ได้ ประชาทัณฑ์กันจนหายแค้น คนชั่วเช่นนี้ตายไปเสียได้ก็ทำให้แผ่นดินสูงขึ้นได้เป็นภูเขาเลากา

   เมื่อพราหมณ์ตายแล้ว ความโกรธแค้นของประชาชนยังไม่หยุดเพียงนั้น ยังบุกถึงเจ้าหน้าที่ซึ่งคอยอารักขาพระเจ้าเอกราชอยู่ เพื่อจะนำตัวมาลงทัณฑ์เสียอีกคน
     จันทรกุมารต้องโดดเข้าไปกั้นกลางประชาชน กอดพระชนกเอาไว้ไม่ให้ใครทำร้าย
   “เราไม่ต้องการคนโหดร้ายทารุณ ฆ่ากระทั่งลูกเมียเพื่ออยากได้สมบัติทิพย์ ออกไป ออกไป” เสียงประชาชนโห่ร้องขับไล่ และได้เเสดงให้พระองค์ทรงทราบว่า แม้จะไว้ชีวิตพระองค์ก็จริง แต่ไม่อาจจะให้อยู่ในเมืองได้ และได้ปลดออกจากราชสมบัติ ทำโทษขับไล่ไปอยู่บ้านจัณฑาล ซึ่งในสมัยนั้นเทียบได้กับหมู่บ้นคนขอทานในสมัยนี้ หรือไม่ก็คล้ายเคียงกัน แล้วอภิเษกเจ้าจันทรกุมารให้ครองราชสมบัติในบุปผวดีนคร

    เมื่อพระเจ้าจันทรกุมารเสด็จประพาสอุทยาน ก็เสด็จไปเยี่ยมพระบิดาเสมอ ได้รับพรจากพระเจ้าเอกราชให้สมบูรณ์พูนสุขชนมายุยืนนาน ก็เสวยราชสมบัติอยู่ในทศพิธราชธรรมบ้านเมืองก็เป็นสูขสบายปราศจากศัตรูหมู่ร้ายจะมารบกวนตราบจนกรกะทั่งสิ้นพระชนม์ เรื่องนี้ก็จบเพียงเท่านี้

เราได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง ความโลภทำให้คนดีกลายเป็นคนชั่ว ความอาฆาตพยาบาททำให้เป็นคนเลว ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว ได้แก่พราหมณ์ ซึ่งจะฆ่าพระจันทรกุมาร แต่ตัวเองกลับต้องตาย ความมัวเมาในอำนาจและอยากได้สิ่งพึงประสงค์เช่นสมบัติทิพย์ ทำให้หน้ามืดตามัวไม่เห็นความผิดถูก อย่างพระเจ้าเอกราช อนิจจาความชั่วไม่ช่วยให้คนดีได้

หน้า 1   หน้า 2   หน้า 3