พระอนาคตวงศ์
กัณฑ์ที่ ๕

 


พระสุมงคล
หน้า ๓

        คฤหบดีแก้วก็เหาะนิวัตตนากลับมายังสำนักสมเด็จพระบรมจักร์มหาปนาทเข้าไปถวายซึ่งแผ่นพระสุวรรณบัตร ให้ทอดพระเนตรพระรูปโฉมของสมเด็จพระกุกกุสนธเจ้า กับทั้งตัวอักษรที่จารึกพระพุทธคุณมานั้น ฯ ฝ่ายสมเด็จพระบรมจักร์มหาปนาททอดพระเนตรพระอักษร ซึ่งจารึกพระพุทธคุณนั้นในแผ่นพระสวรรณบัตรนั้นฯ

        ทรงอ่านแล้วมิทรงรู้ว่าเป็นพระพุทธคุณจึงตรัสถามพราหมณ์ปุโรหิตว่า ดูก่อนท่านอาจารย์อันว่าอักษรที่คฤหบดีจารึกมานั้น จะเป็นพระพุทธคุณจริงแลหรือประการใด ฝ่ายพราหมณ์ปุโรหิตนั้นเป็นผู้ทรงคุณวิชชาไสยศาสตร์

        จึงกราบทูลว่า มหาราชข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ อันว่าอักษรนี้เป็นคุณอันวิเศษแน่แล้ว เป็นยอดคุณทั้งปวงสิ้น ก็คุณวิเศษอย่างอื่น ๆ นั้นจะยิ่งขึ้นไปกว่านี้หาบมิได้ อักษรนี้เป็นพระพุทธคุณเที่ยงแล้ว สมเด็จพระบรมจักร์มหาปนาทได้ทรงฟังพราหมณ์ปุโรหิตกราบทูลดังนั้น ก็ทรงโสมนัสปีติปลาบปลื้มพระทัยสลบลงกับที่ ฯ

        ครั้นพระองค์ฟื้นสมประดีแล้ว ก็ตรัสถามพราหมณ์ปุโรหิตว่า ดูก่อนท่านอาจารย์เราได้ฟังว่า คุณวิเศษนี้เป็นพระพุทธคุณจริงดังนั้นหรือประการใด ปุโรหิตก็กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ อันว่าคุณวิเศษนี้ พระองค์อย่าได้สงสัยในพระกมลหฤทัยเลย เป็นพระพุทธคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเที่ยงแล้ว

        ครั้นได้ทรงสดับฟังพราหมณ์ปุโรหิตกราบทูลซ้ำอีกดังนั้น พระองค์ทรงปีติปลื้มพระทัยสลบลงอีกครั้งเป็นคำรบ ๒ แล้วฟื้นพระองค์ขึ้น จึงตรัสถามปุโรหิตอีกว่า รูปภาพที่คฤหบดีแก้ววาดเขียนมานี้ เป็นอย่างพระพุทธรูปจริงหรือประการใด ปุโรหิตก็กราบทูลว่า พระรูปพระโฉมที่คฤหบดีแก้ววาดเขียนมานี้ คือ พระรูปพระโฉมของสมเด็จพระพุทธเจ้าเที่ยงแล้ว พระองค์อย่าได้สงสัยเลย ฯ

        สมเด็จพระบรมจักร์มหปนาทได้ทรงฟังว่า เป็นพระพุทธรูปของสมเด็จพระพุทธเจ้าจริงแน่ ก็สลบสิ้นสติสมปฤดีไปอีกครั้งเป็นคำรบ ๓ ฯ ครั้นได้พระสติขึ้นมา จึงตรัสแก่คฤหบดีแก้วว่า บัดนี้เราได้ฟังประพฤติเหตุแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้า อันเป็นดวงแก้วหาค่ามิได้ เพราะเหตุตัวของท่านอันเราใช้ไป เครื่องสักการบูชา สิ่งอื่นหาควรจะกระทำสักการบูชาแก่ท่านไม่ ด้วยท่านมีความชอบแก่เราครั้งนี้เป็นที่สุด

        เราจะยกสมบัติจักร์พรรดิอันยิ่งในมนุษย์โลกนี้ กระทำสักการบูชาแก่ตัวท่าน ตรัสประภาษสรรเสริญคฤหบดีแก้วดังนี้แล้ว จึงอภิเษกคฤหบดีแก้วให้เสวยศิริราชสมบัติจักรวรรดิยศ ยกให้เป็นบำเน็จความชอบแก่คฤหบดีแก้ว ในครั้งนั้นคฤหบดีแก้วก็ตั้งอยู่ในศิริราชสมบัติบรมจักร์ เสวยอิสสริยศสมบัติสืบต่อไป ฯ

       ส่วนสมเด็จพระบรมจักร์มหาปนาทนั้นก็ทรงออกจากนครแต่พระองค์เดียว ได้เสด็จบทจรไต่เต่ามรรคาหนทางโดยทิศาภาค ในที่สถิตแห่งสมเด็จพระบรมครูกุกกุสนธเจ้านั้น ฯ ครั้นไปถึงมหานิโครธไทรใหญ่ต้นหนึ่ง ก็ทรงประทับนั่งอาศัยอยู่ใต้ต้นไทรนั้น พอหายเหนื่อยเป็นอันดีแล้ว ก็ยกอัญชลีประนมถวายนมัสการ ลงด้วยเบ็ญจางคประดิษฐ์อันได้สดับว่า

       สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่ตรงนี้ ทรงกระทำอธิษฐานปรารถนาว่า “ ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคเป็นอันงามความปีติโสมนัสแห่งข้าพระพุทธเจ้าบังเกิดมีในพระองค์แล้ว ด้วยเดชะความสัตย์นี้ ขอให้เครื่องอัฏฐบริกขาร ๘ ประการ อันเป็นทรัพย์มรดกแห่งพระภิกษุสงห์ จงเลื่อนลอยมายังสำนักแห่งข้าพระพุทธเจ้า ด้วยเเถิดฯ ”