พระอนาคตวงศ์
กัณฑ์ที่ ๔

 


พระดิสสะ
หน้า ๕

        เมื่อพระเจ้าธรรมเสนบรมโพธิสัตว์ ได้ทรงฟังยักษ์ทูลขอพระลูกรักทั้ง ๒ ปิโยรสดังนั้น ก็เกิดความกรุณาจิตขึ้นมา จึงตรัสว่า ดูก่อนยักษ์ผู้เจริญ ท่านกล่าวถ้อยคำดังนี้เพราะนัก เป็นสุนทรวาจาอันยิ่ง ตรัสแล้วก็เสด็จอุฏฐาการ จูงเอาข้อพระหัตถ์กุมารทั้ง ๒ องค์มาส่งให้แก่ยักษ์ตรัสว่า เชิญท่านมารับเอาปิยบุตรทานของเราแล้วก็จับเอาพระเต้าทอง มาหล่อหลั่งอุทกวารีลงเหนือมือยักษ์ จึงตรัสว่า

        “ ราชกุมารทั้ง ๒ องค์นี้ ใช่ว่าเราจะไม่มีความเสนหาอาลัยก็หามิได้ แต่เรามีความรักพระสัพพัญญุตญาณนั้นยิ่งกว่ากุมารทั้ง ๒ องค์ร้อยเท่าพันเท่าทวีด้วยเดชะผลทานของเราที่สละกุมารทั้ง ๒ องค์ให้เป็นทานแก่ท่านบัดนี้ ขอให้บังเกิดมีผลเป็นที่สุดถึงพระสัพพัญญูสรรเพชุดาญาณ ในอนาคตกาลเบื้องหน้า ”

        พระองค์ประกาศแก่ฝูงเทพดาเจ้าทั้งหลายแล้ว มหัศจรรย์ก็บังเกิดมีต่าง ๆ นา ๆ เป็นต้นว่าแผ่นดินไหวทั่วโลกธาตุ ฯ ครั้นว่ายักษ์ได้รับพระราชทานแล้ว ก็กินกุมารทั้ง ๒ องค์เป็นอาหาร แล้วก็เข้าไปสู่อรัญญราวป่า ฯ ฝ่ายพระเจ้าธรรมเสนบรมกษัตริย์กับพระราชมเหสีเสด็จกลับเข้าพระนคร ฯ

        ในกาลเมื่อเสด็จถึงประตูเมืองพระองค์ทอดพระเนตรเห็นบุรุษแก่คนหนึ่งนั่งเป็นทุกข์อยู่ในที่นั้น จึงมีพระราชโองการตรัสถามว่า เหตุไฉนบุรุษแก่ท่านจึงมานั่งเป็นทุกข์อยู่ในที่นี้ บุรุษนั้นจึงกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ จำเดิมแต่เกล้ากระหม่อมเกิดมา จนอายุถึงเพียงนี้แล้วบุตรภรรยาก็หามีไม่ ข้าพระบาทจึงมานั่งเศร้าโศกอยู่ในที่นี้ ฯ

        พระองค์ได้สดับฟังบุรุษแก่กราบทูลดังนั้น ฯ จึงตรัสว่าเราจะยกพระราชมเหสีให้เป็นทานบารมีอันยิ่งแก่ท่าน ตรัสแล้วก็จับเอาข้อพระหัตถ์พระราชมเหสีลงจากยานุมาศ พาพระนางเข้าไปให้ใกล้บุรุษแก่นั้น ตรัสว่าท่านจงมารับเอาองค์พระราชมเหสีของเราไปโดยเร็วเถิด เรายกให้เป็นทานแก่ท่านบัดนี้ แล้วก็หลั่งอุทกวารีให้ตกลงเหนือมือบุรุษแก่แล้ว ก็ประกาศด้วยพระวาจาปรารถนาว่า

        “ เดชะผลทานที่เราได้ยกนางลัมภุสสราชเทวีอัครมเหสีให้แก่ท่านครั้งนี้ ขอให้เป็นปัจจัยแก่พระสร้อยสรรเพชุดาญาณเถิด ฯ ”

        ในกาลครั้งนั้น อัศจรรย์ก็บังเกิดมีแผ่นดินไหวเป็นอาทิ ดุจสำแดงมาแล้วแต่หลัง ฯ ครั้นบุรุษแก่ได้รับพระราชทานพระราชมเหสีแล้ว จึงมีวาจาปราศรัยกับนางว่า ดูก่อนเจ้าผู้เจริญตัวของเรานี้เป็นคนแก่เฒ่า อนึ่งเล่าทรัพย์สมบัติทั้งปวงก็ไม่มี ดังรือเจ้าจะอยู่ด้วยพี่ได้ ฯ ครั้นพระเจ้าธรรมเสนได้ทรงฟังบุรุษแก่กล่าววาจากับนางดังนั้น จึงทรงคิดว่าเราจะยกราชสมบัติให้กับบุรุษแก่เสีย แล้วเราก็จะออกทรงบรรพชาเป็นดาบทส เห็นว่าจะประเสริฐดำริดังนี้แล้ว

        จึงให้หาตัวบุรุษแก่ผู้นั้นมา แล้วพระองค์ก็พระราชทานราชสมบัติทั้งปวงให้กับบรุรุษแก่นั้น และก็ร้องประกาศตั้งความปรารถนาดุจในหนหลัง อัศจรรย์ก็บังเกิดเหมือนแต่ก่อน ฯ แล้วพระองค์ทรงพระอธิษฐานว่า ดูก่อนอัฐบริกขารทั้ง ๘ ประการ เชิญมายังสำนักแห่งเราในกาลบัดนี้

        ในขณะนั้นอันว่าเครื่องบริกขารบรรชิตทั้ง ๘ ประการ ก็เลื่อนลอยมาตกลงตรงพระพักตร์ ดุจดังว่ามีจิตวิญญาณ พระบรมโพธิสัตว์ก็ทรงเพศบรรพชาเป็นดาบส เจริญบริกรรมภาวนา ยังอภิญญาณ ๕ สมาบัติ ๘ ให้บังเกิดขึ้นเหมือนครั้งก่อน แล้วก็เหาะไปในอากาศเวหาลงยังป่าพระหิมพานต์ เข้าไปสู่สำนักแห่งหมู่พระฤๅษีทั้งหลาย ฯ