พ่อคนป่าสอนลูกคนป่า ปริศนาจากธูป ดอกบัว ๕ ยอด ความดี ๕ ระดับ
วิธีนอนให้หลับ วิธีเอาชนะคนปากมาก ชีวิตใหม่ สติแตก เชิงตะกอน

ปริศนาจากธูปที่จุดบูชาพระประธาน

                ท่านพ่อเจ้าขา ลูกเป็นโรคภูมิแพ้เจ้าค่ะ ลูกปัดกวาดทำความสะอาดผงธูปที่โต๊ะหมู่บูชาคราวใด โรคภูมิแพ้ก็จะกำเริบขึ้นมาแทบทุกครั้งเจ้าค่ะ จะมีทั้งจาม ทั้งไอ จนปวดแสบปวดร้อนบนใบหน้าของลูกไปหมดเจ้าค่ะ จนที่สุดจะอ่อนเพลีย ต้องพักทานยา แล้วก็หลับไปจึงจะดีขึ้น เป็นเหตุอย่างนี้เสมอมา ลูกทุกข์ใจมากที่ต้องได้รับสัมผัสผงธูปหรือผงต่าง ๆ แต่การทำความสะอาดแท่นพระประธาน โต๊ะหมู่บูชา ก็คือการบำเพ็ญบารมีของลูก ตามที่ท่านพ่อได้สอนลูกไว้ว่า นี้คือการทำความดีในเรื่องบุญกริยา แต่อุปสรรคแห่งการบำเพ็ญบารมี ก็บังเกิดขึ้นกับลูก ขอท่านพ่อผู้เป็นที่พึ่งของลูก ๆ ผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ได้โปรดชี้ทางแห่งการพ้นอุปสรรค ปัญหาที่ขัดขวาง การบำเพ็ญความดีของลูกในข้อนี้ด้วยเถิดพระเจ้าข้า

               ลูกรักของพ่อ ด้วยเหตุและปัจจัยที่ลูกได้เอ่ยถามพ่อขึ้นมานี้ พ่อขอชี้ให้ลูกเห็นชัดเจนผลของกรรม ที่พ่อได้พร่ำสอนลูก ๆ ให้ละเว้นความชั่ว คือละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และทรมานสัตว์ทั้งหลายให้เกิดทุกข์ เมื่อเจ้าได้รับคำสั่งสอนจากพ่อ เจ้าก็หาได้ระงับเหตุของกรรมนั้นไม่ ยังฝ่าฝืนกระทำจนเป็นกรรมติดตามตัวเจ้ามา เมื่อกรรมมาสนองตัวเจ้า ก็เกิดทำให้กายของเจ้า หรือขันธ์ ๕ ของเจ้า เกิดทุกขเวทนาป่วยไข้ไม่สบาย ติดตามมาทุกภพทุกชาติ เจ้าเห็น เจ้าเข้าใจ เจ้าสัมผัส อย่างลึกซึ้ง อย่างเกิดปัญญาได้แล้วใช่หรือไม่ลูก

               ลูกเห็นโทษ และเห็นทุกข์ของการผิดศีลข้อที่ ๑ คือ ปานาติปาตาเวรมณีสิกขา อย่างถ่องแท้แล้วพระพุทธเจ้าข้า ลูกขอละเว้นการทำความชั่วในข้อนี้อย่างเคร่งครัด ตลอดชีวิตของลูกแล้วพระพุทธเจ้าข้า

                ดีมากลูก พ่อขอโมทนาด้วย แต่เพื่อเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น ขอลูกจงฟังพ่อ และพิจารณาให้เกิดปัญญาตามที่พ่อจะสอนเจ้าต่อไปนี้

               ด้วยเหตุของความทุกข์ของลูก เพื่อที่ลูกจะได้เกิดปัญญาในการดับทุกข์และเห็นธรรม จนจิตของลูกเป็นอิสระต่อต้นเหตุที่แท้จริง เพื่อการข้างหน้า ถึงจะมีเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบ ส่งเสริมให้ลูกผิดศีลข้อที่ ๑ ลูกก็จะมีกำลัง หิริโอตัปปะสูง จนเกิดสติ ระงับยับยั้งได้ทันท่วงที

                ลูกรักของพ่อ จงมองธูปทั้งหลาย ที่คนทั้งหลายใช้จุดบูชาพระรัตนตรัย หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เจ้ากำลังทำความสะอาดอยู่นั้นว่า ธูปนั้นทำมาจากอะไร ?

                ๑. ดอกไม้ที่หอมนำมาตากให้แห้ง
                ๒.ไม้หอมหรือเครื่องหอม นำมาบดเป็นผง
                ๓. ไม้ไผ่นำมาเหลาทำเป็นก้านธูป
                ๔.ผงกาวหรือยางไม้ชนิดต่าง ๆ ซึ่งทำหน้าที่ให้ผงจากดอกไม้และผงของเครื่องหอมติดกัน จนปั้นเป็นลำธูปได้

                แต่สิ่งที่เป็นต้นเหตุ ที่ทำให้วัสดุทั้ง ๔ รวมตัวกันติดกันได้ เมื่อนำเอาไม้ไผ่นั้นเหลานั้นมาเป็นแกนนั้นก็คือ "น้ำ" เป็นสิ่งที่ ๕ จากนั้นก็นำไปปั้นให้เป็นรูปทรงได้ตามต้องการ สะดวกต่อการพกพา เมื่อนำไปจุดถวายเป็นเครื่องบูชา ถวายการสักการะ

                พ่อขอยกธูปเปรียบเทียบเสมือนกับร่างกายของลูก หรือขันธ์ ๕ ของลูก เมื่อลูกได้จุดไฟที่ธูปแล้ว ธูปก็จะเริ่มไหม้ไปช้า ๆ ควันไฟที่เกิดจากธูปที่ถูกเผา ก็จะเริ่มส่งกลิ่นหอมของมวลสารที่นำมาทำเป็นธูปของมันขึ้นมา ซึ่งถ้าหากจะสังเกตดู ไฟที่จุดติดธูปก็จะเริ่มไหม้ไปช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ จนถึงที่สุดก็จะไหม้หมดลำธูป จนถึงก้านธูปก็จะหยุดไหม้และดับไปในที่สุด เพราะไม่มีเชื้อให้ไหม้อีกแล้ว

                หากไฟที่ลูกนำมาจุดธูปนั้นเปรียบเสมือนไฟของอารมณ์ของลูก คือ ประกอบไปด้วย กิเลสตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรม ไฟนั้นก็จะไหม้ขันธ์ ๕ ของลูกไปเรื่อย ๆ เปรียบเสมอชีวิตของลูก หรือของทุก ๆ คน ก็ถูกไฟไหม้ไปตลอดอย่างนี้ไม่มีหยุด ขันธ์ ๕ ที่ถูกไฟไหม้ก็เสมอว่า กายของลูกที่เสื่อมลงทุกวัน สิ้นลงทุกวันโดยไม่หยุด ตัวลูกเองหรือว่าเจ้าของกายนั้น ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ไฟของกิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรม ได้เข้าไปช่วยให้กายของลูกหรือของทุกคนให้มอดไหม้สลายแก่ลงทุกวัน อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเชื้อเพลิงคือขันธ์ ๕ ติดไฟง่าย เสื่อมเป็นปกติ มีการป่วยไข้ไม่สบายเป็นปกติทุกวันทุกเวลา จนที่สุด กายก็ถึงเวลาสลาย มอดไหม้หมดเชื้อเพลิงไป คือ "ตาย" นั่นเอง

                บางคนไม่ทราบเลยว่า ประโยชน์ของการเกิดที่แท้จริงคืออะไร ? การจุดธูปที่แท้จริงเพื่ออะไร ? เกิดแล้วทุกชีวิตต้องพบกับความตาย ธูปที่จุดขึ้นแล้วก็ต้องพบกับการมอดไหม้และดับลงเช่นเดียวกัน วันรุ่งขึ้น คนที่ทำความสะอาด ก็เก็บก้านธูปที่เหลือทิ้งไปและกวาดผงธูปทิ้ง ทำเช่นนี้ก้านแล้วก้านเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นเดียวกับการเกิดและการตายของชีวิตของลูก หรือของทุก ๆ คนในโลกนี้ ชาติแล้วชาติเล่า ที่เกิดตาย เกิดตาย อยู่ในวัฏฏะสงสารนี้

                ไฟของอารมณ์ รัก โลภ โกธร หลง ยึดมั่น ถือมั่น คือไฟของอารมณ์ที่ต้องได้รับวิบากกรรม อารมณ์ทั้งหลายเหล่านี้ คือ "ไฟร้อน" เป็นไฟแห่งความสุขหรือความทุกข์จ๊ะลูก
                ไฟแห่งความทุกข์เจ้าคะท่านพ่อ
                ถูกต้องแล้ว อารมณ์ทุกข์หรือความทุกข์ก็จะเกิดขึ้นไปกับพร้อม ๆ กายของลูก ถูกเผามอดไหม้ เสื่อมสลายลงทุกวัน ๆ อารมณ์สุขที่แท้จริงหาเจอหรือไม่ ลูกเอ๋ย ?
                ไม่เจอเจ้าค่ะ
                และที่สุดกายของลูกก็ถึงเวลาหยุดลมหายใจ ดับไป เหมือนธูปที่หมดเชื้อไฟใช่หรือไม่ ?
                ใช่เจ้าค่ะ
                แล้วลูกหรือเจ้าของกายนี้ ได้คำตอบหรือไม่ว่า มีขันธ์ ๕ ทำไม ? มีกายทำไม ? เกิดมาทำไม ? มาทำอะไร ? ก่อนเกิดมาจากไหน ? ตายแล้วจะไปไหน ?
                ไม่ทราบเจ้าค่ะ
                นี้จะพบว่า เจ้าของกาย หรือลูกเองก็จะไม่สามารถได้ระลึกถึงคำถามคำตอบนี้เลยใช่ไหม ?
                ใช่เจ้าค่ะ

                แต่หากว่าอีกนัยหนึ่ง ไฟที่ลูกเลือกมาจุดธูปหรือไฟวิเศษ คือ พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาจจะเรียกง่าย ๆ ว่า "ไฟเย็น" ก็ได้น่ะจ๊ะ เมื่อเอาไฟเย็นหรือพระธรรมคำสอนมาจุดธูป ธูปที่ไหม้ก็จะไหม้ไปตามปกติ เสมือนกายของลูก ขันธ์ ๕ ของลูก ก็จะต้องมอดไหม้ไปตามกาลเวลาตามกฎของธรรมชาติ คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เมื่อไฟที่ลูกเลือก คือพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เอามาจุดเผาขันธ์ ๕หรือกายของลูก ลูกก็จะเริ่มเกิดปัญญาว่า ขันธ์ ๕ คืออะไร ? ทำไมต้องมีขันธ์ ๕ มีแล้วเป็นอย่างไร ? สุขหรือทุกข์ ?

                ปกติขันธ์ ๕ จะต้องอยู่ภายใต้กฎของพระไตรลักษณ์อยู่แล้ว คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาขันธ์ ๕ เสื่อมสลายตลอดเวลาชั่วกัปชั่วกัลป์ เมื่อไฟเย็นเผาขันธ์ ๕ ของลูกหมด ก็จะเหลือแต่ จิตที่เป็นพุทธะที่แท้จริงของลูก อารมณ์ รักระหว่างเพศ อารมณ์โลภ โกธร หลง ยึดมั่นถือมั่น ก็หมดไปพร้อม ๆ กับขันธ์ ๕ ที่เสื่อมสลาย ที่สุดลูกก็ตาย แต่การตายครั้งนี้ของลูกไม่เหมือนการตายครั้งก่อน ๆ ในแต่ละภพ แต่ละชาติที่ผ่านมา

                ส่วนข้อแตกต่างของไฟทั้ง ๒ ที่ลูกเลือกมาจุดธูป หรือจุดเผาไหม้ขันธ์ ๕ ของลูก มีข้อแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ไฟร้อนหรือไฟของอารมณ์ กิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรม ไฟนี้เมื่อนำมาจุด มีผลทำให้การตายของลูก หรือเจ้าของกายนั้น ยังต้องรับทุกข์ รับผลของกรรมดี กรรมชั่ว เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฎฏะสงสารนี้ไปอย่างไม่รู้จบ

                แต่ถ้าลูกเลือกไฟเย็น คือ พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจุดเพื่อเผาขันธ์ ๕ หรือกายของลูก ก็เป็นการทำลายขันธ์ ๕ หรือกายของลูกอย่างถาวร ไม่มีขันธ์ ๕ นั้นหมายความว่า ลูกไม่มีขันธ์ ๕ ผู้ไม่มีขันธ์ ๕ เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วหรือยังว่า ขันธ์ ๕ คืออะไร ? ผู้นั้นเมื่อตายแล้วก็จะไปอยู่ที่พระนิพพานนั้นเอง ลูกรักของพ่อ

                สำหรับผงธูปเล่า ก็มีคุณค่าแตกต่างกัน ผู้ที่หน้าที่ทำความสะอาดผงธูปที่ปลิวตกหล่นบริเวณโดยรอบ หากเขาทราบว่า ไฟที่จุดธูปนั้นเป็นไฟวิเศษ ผงธูปก็กลายเป็นผงวิเศษ ผู้ที่ทำหน้าที่ทำความสะอาด เค้าจะกวาดทิ้งหรือว่าเก็บไว้เทิดทูลบูชากราบไหว้ล่ะจ๊ะลูกรัก ?
                เขาจะเก็บไว้กราบไหว้เจ้าค่ะ
                แต่หากว่าผงธูปนั้นจุดด้วยไฟร้อนหรือไฟบาป เขาจะเก็บเอาผงธูปไปกราบไหว้บูชาหรือไม่ ?
                ไม่เจ้าค่ะ
                เขาก็จะนำเอาผงธูปนั้นไปทิ้งที่ไกล ๆ เพราะกลัวอันตราย กลัวโทษ จะเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสกับผงธูปนั้น ใช่หรือไม่ ?
                ใช่เจ้าค่ะ
                ฉะนั้น จากเหตุของธูปที่จุดจนมอดไหม้แล้ว ตามที่พ่อได้หยิบยกมาสอนลูก ลูกคงจะนำไปพิจารณาว่า จะเลือกเอาไฟอะไรมาจุดธูป หรือเผาขันธ์ ๕ ของลูกน่ะจ๊ะ ลูกรักของพ่อ

                เป็นที่สุดของคำว่าพระเมตตาที่มีต่อลูกแล้วพระเจ้าข้า ที่สั่งสอนลูกให้เลือกไฟ ลูกทราบแล้วพระเจ้าข้า ว่าการตายในชาตินี้ของลูก ลูกจะเลือกเอาไฟอะไรพระพุทธเจ้าข้า.......... แล้วท่านผู้เข้ามาเยี่ยมละครับ ท่านจะเลือกเอาไฟอะไร ?.............สาธุ สาธุ สาธุ

ที่มาของเรื่องนี้

                เป็นผลมาจากการปฏิบัติพระกรรมฐานของท่านผู้หนึ่ง (ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่) ซึ่งท่านปฏิบัติพระกรรมฐานตามคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ (ฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อุทัยธานี เป็นเวลานานมาแล้ว ท่านได้รับสัมผัสทางจิตจากท่านที่ละสังขารไปแล้ว มาสั่งสอนให้ความรู้นี้แก่ท่าน และท่านได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟัง ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตจากท่าน เพื่อนำเอามาลงเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ท ท่านก็เมตตาอนุญาต โดยเขียนต้นฉบับมาให้ตามที่ท่านได้รับสัมผัสมาโดยตรงทุกประการ มิได้แต่งขึ้นเองเลย นอกจากจะเปลี่ยนใช้คำพูดที่ง่ายต่อการเข้าใจของท่านผู้อ่านเพียงบางคำเท่านั้น

                ข้าพเจ้าในฐานะของผู้ที่ยังมีขันธ์ ๕ อยู่ ขอกราบอนุโมทนาต่อท่านผู้มีพระคุณทุกท่านที่ได้เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ด้วยเทอญ......สาธุ......สาธุ......สาธุ

      เชิงดอย
      ดอกบัว ๕ ยอด