พระเวสสันดร ๔

 
    เออ เกลอกินน้ำกินท่าเสียก่อนสิแล้วค่อย ๆ มาพูดมาจากัน” พอถึงตอนนี้ ชูชกชักเสียงไม่ค่อยแข็งนัก และเมื่อได้ยินเพื่อนเกลอปรับทุกข์ปรับร้อน และแถมท้ายว่า
      “หากไม่รังเกียจแล้ว เราอยากจะยกลูกสาวคนนี้ให้ท่านไปใช้สอยเป็นการขัดดอกไปก่อน เกลอจะว่าอย่างไร”
     “หาเกลอว่าไงนะ ? ชูชกรีบถามช้ำ”
     “หา เกลอว่ายังไง ถ้าไม่รังเกียจแล้ว เราจะยกแม่อมิตดาให้แก่ท่านเป็นการขัดดอกไปก่อน”
     “เฮอะ ?เฮอะ? เหอ” ตาชูชกส่งเสียงหัวเรอะลั่น
     “เออ พูดยังงี้ค่อยน่าฟังหน่อย

     เอ สหายนี้ยุติธรรมพอใช้เงินทองน่ะมันของหายาก เมื่อเอาของเขาไปใช้แล้วก็หาทางทดแทนเขาเสียมันก็สิ้นเรื่อง อย่าพูดเรื่องรังเกียจเลย แม่หนูนี่ก็ไม่ใช่ลูกคนอื่น เป็นลูกของเพื่อนแท้ ๆ”
     “ก็เป็นอันว่าเกลอตกลงนะ”


     เรื่องนี้เป็นอันตกลงกันได้อย่างดีเสียด้วย พ่อแม่ที่คิดเอาแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของคนอื่น ก็ตกยกลูกสาวให้ตาเฒ่าขอทานไป

    ส่วนอมิตดาสาวเจ้านั้น เพราะอยู่ในโอวาทของบิดามารดา เมื่อทั้งสองยินยอมยกให้แก่ตาเฒ่าชูชกสาวเจ้าก็ไปแต่โดยดี เพราะคิดเสียว่าเป็นการทดแทนพระคุณท่านทั้งสอง ตาชูชกก็พาอมิตดาสาวน้อยไปเป็นคู่เรียงเคียงหมอนยังบ้านเดิมของแก

    เรื่องมันก็น่าจะจบลงด้วยดี ถ้าไม่มีบรรดานารีที่เห็นคนอื่นดีกว่าตนไม่ได้เข้ามาพัวพัน เรื่องมันมีอยู่ว่า

     อมิตดาเจ้าคิดเสียว่าเป็นทาสของตาเฒ่า มิได้คิดอย่างอื่น จะใช้สอยอย่างไรก็ปฎิบัติตามทุกประการ การใช้คำพูดคำจาก็ไพเราะน่าฟัง ค่ะ ขา จ๊ะ จ๋า ไม่มึงวาพาโวยเช่นกับเมียบางคน การงานทั้งหลายสาวเจ้าก็เฝ้าปฎิบัติทำโดยไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อย

     การกระทำของสาวเจ้ากับตาชูชกอยู่ในสายตาของคนในระแวกนั้น
     “แหม เมียตาเฒ่าชูชกนี้สวยจริง ๆ”
     “ไม่ใช่แต่สวยอย่างเดียว กิริยามารยาทก็นิ่มนวนแช่มช้อย จะลุกจะนั่งจะเดินเหินแล้วมันดูดีไปหมด”

     อีกคนสนับสนุน
     “ระวังอย่าพูดให้ตาเฒ่าชูชกแกได้ยินเชียวนา เดี๋ยวแกเอาไม่เท้ามาแพ่นกบาลเอาให้หรอก”
     “พูดจริง ๆ นี่นา”
     “ก็ใครว่าไม่จริงล่ะ”
     “ก็ถึงว่าสิ เดี๋ยวก็จะหาว่าไปเกี้ยวพาราสีเมียแกนะสิ”
     “เกี้ยวหรือไม่เกี้ยวไมรู้ล่ะ”
     “แต่เมียของพวกเราสิเต็มที พูดจาก็มีแต่มึงอย่างนั้น กูอย่างนี้ จะหาไพเราะสักคำก็ไม่มี ถ้าจะพูดด่าล่ะก็แม่ถนัดนักแล”
     “เมียกันก็ด่าเป็นไฟใส่คะแนนไม่ทันเลยล่ะ”
     “ยังสู้ของกันไม่ได้ เวลาแม่ด่าแล้วล่ะก็เกลอเอ๋ย โครตเง่าเหล่ากอมีแค่ไหนแม่ขุดมาด่าหมด วาจาก็สำรากอย่างกับสุนัขหวงก้าง”
     “ของกันสิวิเศษกว่า เห็นกันเป็นลูกชายของหล่อนไปเสียสิบ ทั้งโขกทั้งสับ เห็นแม่อมิตดาแล้ว แหม มันตรงกันข้ามยังกับฟ้ากับดิน หรือนรกกับสวรรค์นั้นเชียวล่ะเกลอเอ๋ย”

     อีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาบ้างว่า
     “บรรดาเมียใครทั้งหมดเห็นว่าจะสู้ของกันไม่ได้ หล่อนเก่งทุกอย่าง นินทาเอย มารยาทก็ไม่เรียบร้อย แนะนะโครมคราม พูดจาก็ไม่น่าฟัง พูดคำด่าคำจนติดปากไปเลย ไพ่ก็เล่นเก่ง ถั่วโปแม่เอาทุกอย่าง การบ้านการเรือนเลี้ยงลูกเลี้ยงเต้าปล่อยให้กันคนเดียว แม่คุณเอ๋ย ของกันเก่งจริง ๆ"

     สหายหลายคนต่างร้องอือไปตาม ๆ กัน แต่อีกคนเอ่ยขึ้นว่า
     “ของพวกเราน่ะมันพอ ๆ กันทั้งนั้น กานบ้านการเรือนก็ไม่เอาอะไรเสียเลย ดีแต่นินทาคนนั้นคนนี้แล้วก็เข้าบ่อน ลงได้เข้าบ่อนแล้วล่ะก็เป็นอันว่าใจเย็นเสียเถอะว่าผัวต้องเข้าครัวเอง แม้แต่มุ้งและที่หลับที่นอนก็ต้องปูให้แม่นอน ดูเมียตาเฒ่าชูชกสิ สาวสวยสิบห้าหยก ๆ สิบหกหย่อน ๆ แต่ หล่อนปฎิบัติพัดวีตาเฒ่าอย่างดี การบ้านการเรือนหล่อนก็ไม่ต้องให้ตักเตือน”
     “แกดูนั้นสิ หล่อนเอาหม้อน้ำไปตักน้ำอีกแล้ว” ทุกคนลงความเห็นต้องจัดการสังคนาทางบ้านเสียทีให้เป็นดีแน่ ๆ


     เมื่อตกลงกันแล้วต่างคนก็กลับไปบ้าน บ้านหนึ่งพอโผล่ขึ้นบ้าน แม่เมียกำลังนั่งเล่นไพ่อยู่กัยเพื่อน ก็แหวขึ้นมา
     “แกหายหัวไปไหนมา เมื่อกี้เรียกหาจะใช้ซื้ออะไรมากินสักหน่อย ดีแต่หลบมุม”

     พอพูดได้เท่านั้นพ่อผัวซึ่งฮึดมาจากที่ประชุมอยู่แล้วก็ตรงรี่เข้ามา พร้อมกับกล่าวว่า
     “ไม่หายหัวไปไหนหรอก แต่อยากจะดัดนิสัยคนสักหน่อย”
     “อ๋อ ดัดหรือ เดี๋ยวแม่...” ยังไม่ทันขาดคำตาผัวก็เตะพลั่กเข้าให้ เล่นเอาแม่เมียรักลงไปเค้เก้ วงไพ่แตกกระจาย เสียงร้องวี้ดว้ายอย่างไม่เป็นส่ำ ยายเมียพยายามลุกขึ้นจะสู้ แต่เจ้าผัวไม่ยอมให้ลุก ทั้งเตะ ทั้งเข่า ทนไม่ไหวแม่เมียต้องอย่าศึก
     “พอแล้วพ่อคุณ ฉันกลัวแล้ว”
     “กลัวแล้วหรือ เอาอีก” แล้วก็ใส่เข่าพลั่ก ๆ เข้าให้อีก
     “จ้ะ ฉันเจ็บแลัว กลัวแล้วจริง ๆ”
     “กิจการบ้านเรือนไม่เอาเรื่อง ดีแต่เข้าบ่อนแล้วก็นินทาชาวบ้าน”
     “เลิกแล้วจ้ะ ฉันเลิกแล้วจริง ๆ จ้า โอ้ย...” พ่อผัวก็รำมะนาต่อไป พร้อมกับสั่งสอน
     “ตัวอย่างดี ๆ อย่างแม่อมิตดาเมียตาชูชก ทำไมแกไม่เอาเยี่ยงอย่าง”
     “จ้า..จ้า .. ฉันจะเอาเยี่ยงอย่างจ้า” ตาผัวก็หยด เมียก็ได้แต่ร้องให้ฮือ ๆ

     อีกบ้านหนึ่ง บ่อนแตกจากบ้านนี้แล้วก็วิ่งกลับมาบ้านตน พอมาถึง ฝ่ายตาผัวไม่ฟังเสียงพอได้เห็นหน้า หน้าแข้งลอยมาที่สีข้างเอียงเป็นนกปีกหัก
     “ต๊าย...ไอ้บ้าเตะกู มึงต้องตาย”
     “เออ เตะสิวะ วันนี้ข้าจะเอาเองให้ตาย”
     “มึงเป็นบ้าอะไรขึ้นมาวะ?”
     “บ้าเรอะ” แล้วเสียงพลั่ก ๆ ติด ๆ กัน
     “อุ๊ย จะตายแล้ว ไอ้บ้า ไอ้บ้ามันตีฉันจะตายแล้ว เพื่อนบ้านช่วยฉันที”
     “เรียกใครให้ช่วยอีคนชั่ว การบ้านการเรือนไม่เอา ต้องสั่งสอนกันบ้างเสียบ้าง” แล้วเสียงตบตีก็ดังต่อไป จนกระทั่งมีเสียงว่ายอมแล้วกลัวแล้วนั้นแหละ เสียงจึงสงบ


หน้า 1   หน้า 2   หน้า 3   หน้า 4   หน้า 5   หน้า 6   หน้า 7   หน้า 8