a5.html a5
หลวงพ่อฤษีลิงดำ


ตายจากคนไปเกิดเป็นวัว

    “ มีผู้มาถามว่า เรื่องตายจากคนแล้วเป็นผีนั้นไม่สงสัย แต่อยากทราบว่าคนที่ตายไปแล้วไปเกิดเป็นสัตว์รับใช้มีบ้างไหม ก็พอดีอาตมาไปพบเข้าเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของอดีตใกล้ปัจจุบัน เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๔๖๕ พระภิกษุศรี วัดแก้วแจ่มฟ้า ได้เล่าเรื่องนี้ให้ พันโท พระพินิจศาลา ฟัง อาตมาทราบมาจากพระพินิจศาลาอีกทอดหนึ่ง

    เรื่องมีอยู่ว่า มีชายจีนคนหนึ่งชื่อ “ เก๊า ” มีภรรยาเป็นคนไทยชื่อ “ ทองคำ ” ตั้งร้านค้าขายอยู่ที่ตลาดน้อย จังหวัดพระนคร สมัยนั้นพระเล่าเรื่องนี้ เขายังเรียกเมืองบางกอก กรุงเทพฯ หรือพระนครนั้นเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นภายหลัง

    นับถอยหลังจาก พ. ศ. ๒๔๖๕ ไป ๓๗ ปี สมัยนั้นแกค้าขายฝิ่นได้ถูกไฟไหม้ร้านค้า ขณะที่เพลิงไหม้ร้านค้านั้นเป็นเวลาดึกสงัด แกรู้สึกตัวขึ้นต่อเมื่อไฟลุกลามมากเสียแล้ว แกเก็บสมบัติส่วนอื่นไม่ทันเลย คว้าปัญชีค้าขายแแกมาได้อย่างเดียว โดยคิดว่าเอาอะไรไม่ได้ก็ช่าง ได้ปัญชีไว้คงไม่อดตาย เพราะยังมีลูกหนี้ที่มาซื้อยาฝิ่นที่ยังไม่ชำระเงินอีกหลายราย

    ต่อมมาแกก็เลิกค้าขายยาฝิ่น หันมาค้าขายชันและน้ำมันยาง จึงไปชื้อวัวมาตัวหนึ่งสำหรับบดชันขายแกบดชันขาย แกก็ค่อย ๆ ร่ำรวยขึ้นตามลำดับ จนปลูกตึกเป็นที่อยู่และร้านค้า ตอนนี้แกรวยมากก็คิดถึงความดีของวัวคู่ยาก เพราะหลังจากไฟไหม้ร้านค้าฝิ่นแล้ว แกเกือบสิ้นทรัพย์ ต่อมาค้าขายเล็ก ๆ น้อย พอมีทุนบ้าง ก็ซื้อวัวตัวนี้มาบดซัน

   เป็นเหตุให้มีฐานะมั่นคงจนมีตึกมีร้านอยู่ จึงไม่อยากจะรบกวนเจ้าวัวเพื่อนยากให้ลำบากอีกต่อไป จะขายให้ชาวบ้านเอาไปใช้งานหรือก็เกรงว่าวัวต้องทำงานหนักอีก จะขายก็เกรงว่าแขกจะฆ่า จะเอาไว้ที่ร้านค้าก็ไม่มีที่เหมาะสม ตึกไปตรองมาก็คิดว่าที่ วัดทองนพคุณ ฝั่งธนบุรี สมัยนั้นเป็นวัดอยู่ในสวนมีวริเวณกว้างมาก สนามหญ้าก็ใหญ่โต

 

คุณเถ้าแก่เก๊าแกมองเห็นประโยชน์ ๒ ทาง คือ

    ๑. ถ้าแกเจ้าวัวตัวนี้ไปถวายพระ พระท่านไม่มีงานใช่ เจ้าวัวก็จะอยู่สุขสมกับความตั้งใจของแก ปรารถนาจะให้มันพักผ่อน ไม่ต้องทำงานต่อไป

    ๒. พระจะได้อาศัยวัวเก็บหญ้าในลานวัดกินเป็นอาหาร เป็นการช่วยพระปราบหญ้าไปในตัว

    เมื่อแกหารือคุณนายทองคำศรีเป็นที่ตกลงกันแล้ว แกก็นำเจ้าวัวของแกข้ามจากฝั่งพระนครมาฝั่งธน สมัยนั้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่มี ต้องอาศัยเรือจ้างข้ามฟาก ตอนที่แกเอาวัวข้ามแม่น้ำแกให้เจ้าวัวตัวนั้นว่ายน้ำ ตัวแกเองนั่งบนเรือ ถึงแม้วัวจะเหนื่อยหน่ายแกก็คิดว่าเป็นการเหนื่อยครั้งสุดท้าย

    เมื่อข้ามฟากไปฝั่งธนบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แกก็จูงเจ้าวัวเพื่อนยากไปฝากเจ้าอาวาส เมื่อท่านเจ้าอาวาสรับฝากแล้ว แกก็กลับบ้านมานอนสบายใจที่ได้สงเคราะห์วัวตัวที่แกรักได้สมเจตนาพอเช้าวันรุ่งขึ้นแกก็ต้องแปลกใจที่เห็นเจ้าวัวนั้นมายืนอยู่หน้าประตูตึก

    สมัยนั้นวัวหรือม้าหรือควายเดินในท้องถนนหลวงไม่ใช่ของแปลก เพราะสัตว์พวกนี้มีมากในถนนหลวง รถหาได้ยากเต็มทน วันหนึ่งมีรถยนต์ผ่านหน้าไม่เกิน ๔ เที่ยวเป็นอย่างมาก รถที่ใช้เป็นพาหนะส่วนใหญ่ก็เป็นรถม้า นาน ๆ จะพบรถเจ๊ก เมื่อแกกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว แกก็นำเจ้าวัวตัวนั้นกลับไปให้พระพระวัดทองนพคุณใหม่

 

ตายจากคนไปเกิดเป็นวัว

    คืนวันนั้นเองคุณเถ้าแก่เก๊าแกนอนหลับฝันไปว่า เจ้าวัวตัวนั้นมันมาหาบอกชื่อตัวเองว่าชื่อ “ ลก ” เมื่อสมัยที่แกขายยาฝิ่นนั้น นายลกหรือวัวตัวนั้นเคยชื้อยาฝิ่นเป็นสินเชื่อไว้ ยังชำระหนี้ไม่หมด เห็นว่าเลิกขายยาฝิ่น ก็เลยไม่ยอมจ่ายเงินให้

    เจ้าวัวตัวนั้นที่มาเข้าฝันก็พูดต่อไปว่า

    “ เมื่อฉันเป็นหนี้นายและยังไม่ได้ชำระหนี้ ฉันจึงมาเกิดเป็นวัวเพื่อให้นายใช้งาน เป็นการชำระหนี้ด้วยแรงงาน ขอนายจงไปเอาฉันมาใช้งานจนกว่าจะตายไปตามสภาพ ฉันจึงจะพ้นหนี้ ถ้านายไม่เอาฉันมาใช้ ชาติต่อไปฉันก็ยังจะต้องเกิดเป็นวัวให้ใช้วานต่อไป โอกาสที่จะหมดโทษก็จะไม่มี ถ้านายสงสารฉัน ขอให้นายไปรับฉันมาใช้งานตามเดิมเถิด...”

    เรื่องนี้คุณพระพินิจบอกว่า เจ้าพวกวัว ควาย ช้าง ม้าที่ถูกใช้งานหนัก ๆ โดยไม่มีค่าจ้างแรงงาน แต่ผลที่ได้รับเป็นเครื่องตอบแทนความเหนื่อยยากก็คือ หญ้าสดบ้าง หญ้าแห้งบ้าง เห็นจะเป็นเพราะสมัยเป็นมนุษย์คงจะโกงเงิน

    คือเป็นหนี้แล้วไม่ยอมชำระหนี้สินแบบนายลกนี้เป็นแน่บางทีเจ้าของเงินเขาไม่ว่าแต่กฏของกรรมว่าเสียเอง ทั้ง ๆ ที่เจ้าของเงินไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวเรื่องการถูกลงโทษ ส่วนพวกวัวควายที่ถูกเขาใช้งานแล้ว เมื่อเขาหมดความต้องการก็ถูกเจ้าของจับฆ่าเป็นอาหารก็คงจะเนื่องมาจากชาติก่อนเคยฆ่าสัตว์ประเภทนั้นตาย จึงต้องไปเกิดเป็นสัตว์ประเภทนั้น และต้องถูกฆ่าตายจนกว่าจะครบจำนวนตามที่เคยฆ่าแล้ว

    ก็เป็นอันว่าคนที่คิดจะหลบหนี้ด้วยการฆ่าตัวตาย เพื่อเจ้าหนี้จะได้ตามทวงไม่พบ ถ้าเรื่องนี้มีผลตามที่ท่านคุณพระพินิจเล่าให้ฟังแล้ว ก็หนักใจแทนท่านที่หลบหนี้ เพราะถ้ารับใช้สมัยเป็นคนเพื่อการชำระหนี้ด้วยแรงงาน

   ยังมีโอกาสกินข้าวกินขนมได้อย่างเจ้าหนี้ เหนื่อยก็ขอร้องผลัดผ่อนได้ ร้อนก็บอกได้ แต่ตอนที่เกิดเป็นวัวเป็นควายนั้นแสนจะระทม หิวอาหารกระหายน้ำ เหนื่อย ยุงกินริ้นกัด หมดทางที่จะรายงานเพราะพูดไม่มีใครรู้เรื่อง มันเป็นกรรมที่แสนจะทรมาน...”

หน้า 1   หน้า 2   หน้า 3   หน้า 4   หน้า 5   หน้า 6   หน้า 7   หน้า 8   หน้า 9