และสันตติรูปนั้น ได้แก่รูปอันบังเกิดสืบ ๆ ให้ใหญ่วัยเป็นหนุ่มเป็นสาว รูปอันใดบังเกิดสืบต่อให้ใหญ่ให้วัยเป็นหนุ่มเป็นสาวนั้น รูปอันนั้นได้ชื่อว่าสันตติรูป
และชรตารูปนั้น ได้แก่รูปอันแก่เฒ่าชราคร่ำคร่าลง รูปกายแห่งเราท่านทั้งหลาย อันแก่เฒ่าชรา ตามืด หูหนัก ฟันหัก แก้มตอบ สันหลัง ขอถดถอยกำลัง เนื้อหนังหดหู่เป็นเกลียวนั่นแลได้ชื่อว่าชรตารูป
แลอนิจจตารูปนั้น คือ รูปอันไม่เที่ยงเกิดแล้วและถึงซึ่งสถาวะฉิบหายทำลายไป พึงเข้าใจเถิดว่ารูปทั้งปวงอันมีนัยดังพรรณนามาฉะนี้ ได้ชื่อว่าอุปทายรูป เหตุว่าอาศัยซึ่งมหาภูตรูปทั้ง ๔ ประการ แล้วจึงบังเกิดมี
และรูปทั้งหลายนี้ อตีตํ วา ที่ล่วงไปแล้วก่อน ๆ นั้นได้ชื่อว่าอดีตรูป
อนาคตํ วา รูปอันจะบังเกิดสืบไปในภายหน้านั้น ได้ชื่อว่าอนาคตรูป
ปจฺจุปฺปนฺนํ วา รูปอันบังเกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น ได้ชื่อว่าปัจจุบันรูป
อชฺฌตฺตํ วา รูปที่บังเกิดในภายใน คือประสาททั้ง ๕ มีจักษุประสาทเป็นต้น มีกายประสาทเป็นปริโยสานนั้น ได้ชื่อว่าอัชฌัตตรูป
อัชฌัตตรูปนั้น แปลว่ารูปภายใน ประสาททั้ง ๕ คือ จักษุประสาท โสตประสาท ฆานประสาท ชิวหาประสาท กายประสาทนั้นประดิษฐานอยู่ภายใน อาศัยเหตุดังนั้น จึงได้ชื่อว่าอัชฌัตตรูป
พหิพฺธา วา และรูปนอกจากประสาททั้ง ๕ นั้น ได้ชื่อว่าพหิทธารูป
อธิบายว่า เป็นรูปภายนอกไม่ประดิษฐานในภายในเหมือนประสาททั้ง ๕ เหมือนอย่างหัวใจ ตับ ปอด และม้าม ไส้น้อย ไส้ใหญ่ทั้งปวงนั้น ก็ตั้งอยู่ในภายในตน แต่ทว่าไม่เป็นภายในเหมือนด้วยประสาททั้ง ๕ เหตุดังนี้ท่านจึงไม่จัดเป็นอัชฌัตตรูป ท่านจัดเป็นอัชฌัตตรูปเป็นรูปภายในนั้น แต่ประสาททั้ง ๕ นอกกว่านั้นท่านจัดเป็นพหิทธารูปสิ้นทั้งนั้น
โอฬาริกํ วา และรูปที่หยาบ ๆ คือรูปารมณ์ประการ ๑ สัททารมณ์ประการ ๑ คันธารมณ์ประการ ๑ รสารมณ์ประการ ๑ ปฐวีธาตุประการ ๑ เตโชธาตุประการ ๑ วาโยธาตุประการ ๑ เป็น ๗ ประการด้วยกัน เอาประสาททั้ง ๕ มาใส่เข้าด้วยเป็น ๑๒ รูป ทั้ง ๑๒ ประการนี้ได้ชื่อว่าโอฬาริกรูป ว่าเป็นรูปอันหยาบ
สุขุมํ วา และรูปนอกออกไปกว่า ๑๒ ประการนี้ ได้ชื่อว่าสุขุมรูป แปลว่ารูปอันละเอียด
หีนํ วา รูปที่ชั่ว ๆ นั้นได้ชื่อว่าหีนรูป ปณีตํ วา รูปที่งาม ๆ ดี ๆ ได้ชื่อว่าปณีตรูป ยํ ทูเร วา สนฺติเก วา รูปที่อยู่ไกล ๆ นั้นได้ชื่อว่าทูเรรูป รูปที่อยู่ใกล้นั้นได้ชื่อว่าสันติเกรูป
ตเทกชฺฌํ อภิสญฺญูหิตฺวา สมเด็จพระมหากรุณาประมวลรูปทั้งปวงเข้าเป็นหมู่หมวดเป็นกองอันเดียว จึงให้ชื่อว่ารูปขันธ์