ทุกคนลงความเห็นชอบด้วยกัน และเริ่มดำเนินตามแผนโจรกรรมที่วางไว้ เมื่อได้มาแล้วเสนกะก็วางอุบายต่อไปคือให้หญิงคนใช้ของตนคนหนึ่ง เอาเปรียงใส่หม้อไปขายให้คนในบ้านมโหสถ ถ้าคนอื่นซื้อไม่ขาย ถ้าคนในบ้านมโหสถล่ะก็ให้ขายไปเลยทั้งหม้อด้วย พร้อมกับเอาปิ่นทองใส่ก้นหม้อไปด้วย หญิงคนใช้ก็เอาไป
เปรียงแม่เอ๊ย อย่างดี ใหม่ สด ดีไม่มีสอง แล้วแม่ค้าก็เดินกลับไปกลับมาอยู่หน้าบ้านมโหสถ
นางอมรอยู่ภายในบ้านมองเห็นความผิดปกติของชาวค้าชาวขาย ทำไมมาเดินวน ๆ เวียน ๆ อยู่แถวหน้าบ้านตนเช่นนี้คงเห็นจะมีอะไรผิดปกติเป็นแน่ จึงให้คนใช้หลบไปเสียก่อน นางเองออกไปเรียกคนขายเปรียงมา พอนางเผลอก็ล้วงมือลงไปในหม้อก็เจอปิ่นทอง แต่นางทำเป็นไม่รู้ เสทำเป็นถามโน่นถามนี่
เปรียงของแม่ค้าดีจริงหรือเปล่าคะ
ดีแน่เชียวคะ เป็นของใหม่และสดจริง ๆ และเป็นของที่มาจากนมบริสุทธิ์จริง ๆ
แม่ค้าอยู่ไกลไหมคะ
ดิฉันอยู่บ้านท่านเสนกะคะ
แล้วทำไมมาขายของล่ะคะ
หารายได้พิเศษน่ะคะ แม่ค้าตอบอย่างไม่ค่อยเต็มคำนัก
ถ้าดีจริง ๆ ฉันจะซื้อไว้เอง
คะดิฉันจะคิดให้ถูก ๆ และขี้เกียจจะเอาหม้อกลับไปเลยแถมให้เสียด้วย นางอมรก็จัดแจงจดเป็นลายลักษณ์อักษรไว้
รุ่งขึ้น ปุกกุสะให้นางทาสีเอาดอกไม้ใส่กระเช้ามาขายพร้อมกับเอาดอกไม้ทองใส่ก้นกระเช้ามาด้วย นางคนขายคนนั้น ก็แสดงอาการพิรุธคือมาเดินวนเวียนอยู่ที่บ้านของมโหสถ นางอมรเห็นเข้าก็นึกรู้ว่าคงมีอะไรอีกเป็นแน่ ก็เลยเรียกเข้ามาซึ้อ และสอบถามได้ความว่าอยู่บ้านปราชญ์ปุกุสะ นางได้พบดอกไม้ทองก็เก็บไว้ พร้อมจดเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ด้วย
ส่วนกามินทร์ใช้ให้ทาสีในบ้านเอาผ้ามาขาย แต่ก็เอาผ้าคลุมบรรทมซ่อนใส่ข้างล่างไว้ด้วย ซึ่งนางอมรก็รู้ทันและได้สอบถามและก็จดไว้ด้วย เทวินทร์เอาข้าวโพดมาขาย พร้อมกับรองเท้าทองซ่อนใส่ในมัดข้าวโพดมาด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่พ้นการพิจารณาของนางอมรไปได้ ซึ่งนางก็ทำเป็นจดหมายหมายเหตุไว้อีก เมียดีเป็นศรีแก่ผัวเห็นจะเป็นอย่างนางอมรนี่เอง ไม่ปล่อยไปให้สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผ่านเข้ามาในบ้านรอดหูรอดตาไปได้ ถ้าปล่อยไปมโหสถเห็นทีจะแย่เหมือนกัน