เรื่องเครื่องประดับ
หญิงยากจนคนหนึ่งเดินทางมาไกล เหนื่อยเข้าพอมาถึงสระน้ำก็จัดแจงถอดสร้อยคอที่ทำด้วยด้ายถักสีต่าง ๆ ไว้บนผ้าแล้วตัวเองก็ลงไปในสระเพื่อจะลูบตัวและล้างตา
หญิงรุ่นคนหนึ่งแลเห็นเคื่องประดับนั้นก็เกิดความโลภอยากได้สร้อยคอคอถักสายนั้น จึงเดินเข้าไปหยิบดู และถามหญิงเจ้าของว่า
 นี่แน่ะเธอ สร้อยคอของเธอสวยจัง ฉันอยากจะทำบ้าง ราคาสักเท่าไหร่นะ
 ไม่มีค่าดอกค่ะ เพราะมันเป็นด้ายถักสีต่าง ๆ เท่านั้นเหมาะสำหรับคนยากจนเท่านั้นค่ะ
 "แต่ฉันว่ามันสวยดีน่ะ ฉันอยากจะชมสักหน่อย แล้วเอาสร้อยนั้น สวมคอตนเองแล้วถามว่า
 ดูสิคะ สวยไหมคะ
 ก็ดีเหมือนกันเหละคะ
 เออ..? สวยจริง ๆ แหละนะ ว่าแล้วก็เดินหนีไปเสียเฉย ๆ พร้อมทั้งเอาสร้อยนั้นติดคอไปเสียด้วย
หญิงผู้เป็นเจ้าของตกใจอ้าปากค้าง พอได้สติก็ร้องออกมาว่า
 คุณคะ สร้อยคอดิฉันคุณยังไม่ได้คืนมานะคะ
 สร้อยคออะไรของแก นี่มีแต่ของฉันเท่านั้น ที่สวมอยู่ในคอของฉันนี่เเหละ
 ไม่ยอม ไม่ยอม คุณโกงดิฉันต่อหน้าต่อตาอย่างนี้ไม่ได้
 ไม่ได้จะทำยังไง เชิญขี่ม้า ๓ ศอก ๔ ศอก ไปบอกกับใครก็ได้ มันของฉันแท้ ๆ หล่อนจะมาตู่เอาน่ะไม่สำเร็จดอก
 ว่าแล้วก็วิ่งหนีไป หญิงผู้เป็นเจ้าของ ขึ้นจากสระวิ่งตามไป พร้อมกับร้อง เอาของฉันมา เอาของฉันมา ฉันไม่ให้
 คนขี้ตู่ หน้าด้าน ของตัวก็อยู่ที่ตัวสิ นี่ของฉันต่างหากฉันไปล่ะ อย่ามาหน่วงเหนี่ยวไว้นะ
  พร้อมกับเดินหนีไป แต่หญิงคนจนไม่ยอมให้ไปก็ดึงไว้ ประชาชนชาวเขาเผ่ามุงก็ล้อมกันเข้ามาสอบถามเรื่อง เมื่อรู้แล้วก็ไม่สามมารถจะจัดการอะไรได้ เพราะต่างไม่มีพยานด้วยกัน
 ไปหามโหสถให้เขาตัดสินให้เถอะ
เมื่อตกลงกันแล้ว ก็พากันยกขบวนให้ทั้งโจทก์จำเลยเหล่าเผ่ามุงเผ่ามองทั้งหลายไปยังศาลาที่เจ้ามโหสถกำลังเล่นอยู่
 พ่อมโหสถมีความมาให้ตัดสินอีกแล้ว
 เรื่องอะไรกันล่ะ
 เรื่องมันเกี่ยวกับเครื่องประดับ ซึ่งต่างคนก็ช่วงชิงกรรมสิทธิ์กัน
 บอกให้โจทก์และจำเลยเข้ามาซิ
  เมื่อโจทก์และจำเลยเข้ามาแล้ว มโหสถจึงถามว่า
  ท่านทั้งสองจะยอมทำตามคำตัดสินของเราแน่ล่ะหรือ
 ข้าพเจ้าทั้งสองจะปฎิบัติตามความตัดสินของท่าน
 ถ้าเช่นนั้นโจทก์ให้การไปก่อน
  หญิงผู้เป็นโจทก์จึงเล่าความตั้งแต่ตนเดินทางมาจนกระทั่งถอดสร้อยคอด้ายถักวางไว้บนผ้า แล้วลงไปลูบตัวล้างหน้าล้างตาฝนสระ หญิงจำเลยเดินมาขอดู ตนจึงให้ดู แต่หญิงนั้นไม่ดูเปล่า ๆ กลับเอาสวมใส่คอแล้วเดินหนีไปหน้าตาเฉยเสียอีกด้วย ตนจึงขึ้นจากสระวิ่งไล่ตามมาเพื่อจะเอาของ ๆ ตนคืน แต่หญิงจำเลยไม่ให้ อ้างว่าเป็นของตน ไม่ตกลงกันจึงพากันมาหามโหสถนี่แหละ
  เมื่อมโหสถฟังโจทก์แล้วก็ถามจำเลยบ้าง หญิงนั้นก็ให้การว่า ตนมีธุระเดินทางผ่านมาทางสระซึ่งหญิงคนนั้นในสระ และไม่ทราบว่าอย่างไรผลุนผลันหญิงคนนั้นก็วิ่งขึ้นมาจะเอาสร้อยคอถักซึ่งนางสวมใส่อยู่ อ้างว่าเป็นของเขา ดิฉันจึงไม่ยอมให้ก็เกิดโต้เถียงกันจนคนแนะนำให้มาหามโหสถ
  มโหสถพิจารณาแล้วก็ทราบได้ทันที คนผู้จำเลยฉ้อโกงของเขาจริง ๆ เพราะตามธรรมดาใครจะวิ่งเข้ามาตู่ของ ๆ คนอื่นได้ง่าย ๆ โดยไม่มีเหตุผลอะไร แต่เพื่อจะให้ปรากฎแก่มหาชนทั่วไป มโหสถจึงสั่งให้คนนำเอาอ่างใส่น้ำเข้ามาอ่างหนึ่งพร้อมกับให้นางจำเลยถอดสร้อยคอนั้นแล้วแช่ลงไปในอ่าง พร้อมกับถามนางว่า
 "เครื่องประดับของเธออบด้วยเครื่องหอมอะไร นางผู้เป็นจำเลยอึกอัก เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่แล้วก็แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปทีหนึ่ง โดยตอบว่า
 ของข้าพเจ้าอบด้วยกำยาน
มโหสถจึงหันไปถามผู้เป็นโจทก์บ้าง
 เครื่องประดับของท่านอบด้วยเครื่องหอมอะไร
ผู้เป็นโจทก์จึงตอบว่า
 ท่านผู้เป็นที่พึ่งของคนยาก ดิฉันเป็นคนจน ไม่สามารถจะหาของหอมอะไรได้ ก็ได้แต่เก็บเอาดอกพยอมมาอบเครื่องประดับนี้
  เมื่อได้ทราบคำของทั้งสองฝ่ายแล้ว มโหสถก็ให้เอาเครื่องประดับขึ้น แล้วเรียกคนที่ชำนาญในการดมกลิ่นเข้าไปพิสูจน์ดูว่าในน้ำที่แช่เครื่องประดับนั้นมีกลิ่นอะไร ผู้ชำนาญเข้าไปดมแล้วก็หันมาบอกกับมโหสถว่า
 ท่านผู้เจริญในน้ำมีแต่กลิ่นดอกพยอมเท่านั้น
มโหสถจึงเรียกนางผู้เป็นจำเลยเข้ามาถามว่า
 เรื่องนี้ท่านจะว่าอย่างไร ถ้าเรื่องนี้ไปถึงเจ้าหน้าที่ ท่านจะต้องลำบาก เพราะเหตุทั้งหลายบอกให้ทราบว่าท่านมิได้เป็นเจ้าของเครื่องประดับสายนั้น ท่านจะยอมคืนให้เขาหรือไม่
  ด้วยดวงหน้าซีดเผือดเพราะความอาย และเสียงสั่นด้วยความกลัวผิด นางผู้เป็นจำเลยยอมรับ คืนและขอโทษอย่าเอาความผิดอีกเลย
มโหสถจึงคืนสร้อยนั้นให้นางผู้เป็นเจ้าของไป พร้อมกับสั่งสอนให้นางผู้เป็นจำเลยตั้งอยู่ในศีลธรรมแล้วให้แยกทางกันกลับไป
 ใครบ้างจะคิดว่าเรื่องยาก ซึ่งหาพยานหลักฐานอะไรมิได้ แต่มโหสถคิดหาหนทางพิสูจน์ตังเองมาตลอด ใครโง่ ใครฉลาด ใครคด ใครโกง ใครซื่อสัตย์ เหตุการณ์และเวลาเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ได้
 ท่านอาจารย์ มโหสถได้แสดงปัญญาตัดสินความนี้ได้อย่างลึกซึ้ง สมควรนำมาเลี้ยงดูได้หรือยัง
 เพราะไม่อยากให้ใครดีเกินหน้าตน เสนกะจึงกลาบทูลว่า ขอเดชะ เรื่องเล็กน้อยเท่านี้ใคร ๆ ก็ตัดสินได้ อย่าเพื่งเอามาเป็นเครื่องวัดความเป็นบัณฑิตด้วยสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เลยดูไปอีกก่อนดีกว่า เวลาเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีกว่านี้
|